ตำรวจปินส์ฆ่า 13 ผู้ค้ายาในวันเดียว
ตำรวจฟิลิปปินส์วิสามัญ 13 ผู้ต้องสงสัยว่าค้ายาเสพติด และจับกุมตัวไปมากกว่า 100 ราย ในปฏิบัติการปรามปรามยาเสพติดในวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมาในจังหวัดทางเหนือของกรุงมะนิลา ผู้บัญชาการตำรวจกล่าว
มีผู้ต้องสงสัยชาวฟิลิปปินส์มากกว่า 4,000 คนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสังหารในระหว่างช่วงเวลา 20 เดือนของการปราบปรามยาเสพติดของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต และอีกนับพันคนโดยกลุ่มชายติดอาวุธที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ โดยการวิสามัญของเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่มหานครมะนิลา และจังหวัดใกล้เคียงอย่าง Bulacan และ Cavite
กลุ่มสิทธิมนุษยชนและฝ่ายค้านของประธานาธิบดีดูเตอร์เตกล่าวว่า การวิสามัญผู้เสพยาและผู้ขายยารายเล็กรายน้อยกำลังแพร่กระจายไปทั่วแต่ตำรวจยืนยันว่าผู้ที่ถูกสังหารทั้งหมดเป็นผู้ค้ายาซึ่งขัดขืนการจับกุมของเจ้าหน้าที่และต่อสู้อย่างรุนแรง
ตำรวจใน Bulacan ปฏิบัติการล่อซื้อมากถึง 60 ครั้งใน 9 เมือง ผู้บัญชาการตำรวจกล่าวเมื่อวันที่ 22 มี.ค.
โดย Bulacan ซึ่งเป็นบริเวณที่มีคนถูกวิสามัญ 32 รายภายในวันเดียวในเดือนส.ค.ปีที่แล้ว ในเดือนก.พ. มีผู้ต้องสงสัยถูกสังหารเพิ่มอีก 10 รายในคืนที่มีการล่อซื้อรุนแรงนองเลือด
“ ปฏิบัติการเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญที่ตั้งเป้าจะรุกคืบเข้าปราบปรามยาเสพติดและอาชญากรรมอื่นๆทุกรูปแบบในจังหวัด ” Romeo Caramat ผู้บัญชาการตำรวจ Bulacan ระบุในแถลงการณ์
“ โชคร้ายที่ผู้ต้องสงสัย 13 คนถูกวิสามัญเมื่อเจ้าหน้าที่ของเรายิงป้องกันตัว เนื่องจากผู้ต้องสงสัยที่มีอาวุธปืนรู้สึกว่าตัวเองจะถูกจับและเปิดฉากยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ก่อน ”
Caramat รายงานว่า มีผู้ถูกจับกุมมากกว่า 100 ราย และยึดของกลางได้เป็นอาวุธปืน 19 กระบอก และห่อยาต้องสงสัยว่าจะเป็นยาเสพติดประมาณ 250 ชิ้นในปฏิบัติการที่ใช้เวลารวม 24 ชั่วโมง
ในเดือนก.พ. อัยการที่ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ในกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์เริ่มการตรวจสอบเบื้องต้นกับคำร้องที่กล่าวหาประธานาธิบดีดูเตอร์เต และเจ้าหน้าที่อย่างน้อย 11 นายว่าเป็นผู้ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
สัปดาห์ที่แล้ว ฟิลิปปินส์ได้ยื่นคำร้องต่อสหประชาชาติถึงการตัดสินใจที่จะขอสหประชาชาติถอนตัวออกจาก ICC เพราะประธานาธิบดีดูเตอร์เตมองว่าถูกเจ้าหน้าที่สหประชาชาติจู่โจมอย่างอุกอาจ และละเมิดขั้นตอนกระบวนการสอบสวน.