สิงคโปร์ทยอยหยุดขายเมนูหูฉลาม
เครือร้านอาหารชั้นนำในสิงคโปร์เริ่มทยอยหยุดขายเมนู “หูฉลาม” หวังช่วยลดความเสี่ยงฉลามสูญพันธุ์ ขณะที่สิงคโปร์คือตลาดนำเข้าหูฉลามมากอันดับ 2 ของโลก รองจากฮ่องกง
กลุ่มภัตตราคารชั้นนำของสิงคโปร์หลายแห่ง รวมถึงร้านอาหารจีน “คริสตัล เจด” ภัตตราคารเครือโรงแรมแพน แปซิฟิก และเครือข่ายอาหารดิลิเวอรี่ “ฟู๊ดแพนด้า” ต่างพากันขานรับการรณรงค์ของ “กองทุนเพื่อธรรมชาติ” (WWF) ต้องการยุติการ
บริโภคและค้าหูฉลาม โดยเครือข่ายร้านอาหารและภัตตราคารชั้นนำของสิงคโปร์มากราว 3,800 แห่ง เริ่มทยอยหยุดนำเสนอเมนูอาหารหูฉลาม ซึ่งชาวเชื้อสายจีนนิยมบริโภค โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสำคัญๆหรือการจัดเลี้ยงต่างๆ
ความร่วมมือกันเรื่องนี้แบ่งเป็น 3 ขั้น คือ 1.เลิกการนำเสนอเมนูหูฉลามอย่างสิ้นเชิง 2.หยุดจำหน่ายเมนูหูฉลามเป็นช่วงเวลา และ 3.เสิร์ฟหูฉลามเฉพาะบุคคลที่ร้องขอเป็นกรณีๆไป โดยเครือร้านอาหารจีน “คริสตัล เจด” จะเริ่มถอนเมนูหูฉลามออกจากร้านสาขาในสิงคโปร์ทั้ง 28 แห่งตั้งแต่ 31 ก.ค.ปีนี้
ส่วนกลุ่มโรงแรมแพน แปซิฟิก เริ่มหยุดจำหน่ายเมนูหูฉลามตามภัตตราคารสาขาทั้งหมด 34 แห่ง กับร้านอาหารอีก 7 แห่งตั้งแต่เริ่มต้นปี 2561แล้ว ขณะที่ “ฟู๊ดแพนด้า” เครือข่ายอาหารดิลิเวอรีชั้นนำของสิงคโปร์เตรียมหยุดจำหน่ายเมนูหูฉลามตั้งแต่เดือนมี.ค.นี้ แต่อาหารทะเลอื่นๆยังจำหน่ายตามปกติ
ทั้งนี้ สิงคโปร์คือชาตินำเข้าหูฉลามมากอันดับ 2 ของโลกรองจากฮ่องกง กลุ่มชาตินำเข้าหูฉลามมากที่สุด คือ จีนและฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซียและไต้หวัน ขณะที่หูฉลามนำเข้าส่วนใหญ่มาจากอินโดนีเซีย สเปน อินเดีย สหรัฐอเมริกาและอาร์เจนตินา ซึ่งปริมาณหูฉลามจากกลุ่มชาติเหล่านี้มากเกือบครึ่งหนึ่งของทั้งโลก
ข้อมูลของ WWF ระบุเฉพาะช่วงปี 2556 ประเมินจำนวนฉลามถูกฆ่าทั่วโลกมากราว 100 ล้านตัว.