อินโดฯเล็งห้ามไปทำงานมาเลย์
ทางการอินโดนีเซียกำลังพิจารณาที่จะระงับการส่งแรงงานในประเทศไปทำงานที่มาเลเซีย จากกรณีการถูกปฏิบัติอย่างเลวร้ายจนทำให้แม่บ้านรายหนึ่งเสียชีวิต โดยเธอลักลอบไปทำงานอย่างผิดกฎหมายที่ประเทศเพื่อนบ้าน
การเสียชีวิตของ Adelina Lisao วัย 21 ปีที่ปีนัง ในมาเลเซียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จุดประกายให้เกิดการดีเบตกันไปทั่วประเทศเพื่อให้มีการปกป้องอย่างเข้มงวดกับแรงงานอพยพ และก่อให้เกิดการตั้งคำถามถึงความจำเป็นที่ต้องส่งแรงงานอินโดนีเซียไปประเทศใกล้เคียง ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งของการค้ามนุษย์
ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาที่จะระงับการรับสมัครแรงงานชาวอินโดนีเซียไปทำงานที่มาเลเซีย โดยมีการหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาหารือกันในระหว่างการประชุมประจำปีที่จัดโดยนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคของมาเลเซียเมื่อปี 2560 อ้างอิงจากการเปิดเผยของ Rusdi Kirana ซึ่งเป็นเอกอัครราชทูตของอินโดนีเซีย ประจำมาเลเซียเมื่อเร็วๆนี้
โดย Rusdi ได้เสนอให้มีการระงับการส่งแรงงานในประเทศไปทำงานที่มาเลเซีย และดำเนินการที่จะปรับโครงสร้างกระบวนการบริหารจัดการ การจ้างงาน ด้วยเป้าหมายที่จะเชื่อมความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้งสองประเทศ ซึ่งมีความตึงเครียดเพิ่มขึ้นจากหลายกรณีที่เกิดขึ้นกับแรงงานอพยพ
ข้อเสนอของเขาเกิดขึ้นหลังจากกรณีของ Adelina ซึ่งถูกนายจ้างบังคับให้นอนอยู่นอกบ้านกับสุนัขของนายจ้างนานเป็นเดือน เธอเสียชีวิตจากการบาดเจ็บสาหัสที่ศีรษะและใบหน้า และมีบาดแผลติดเชื้อทั้งที่มือและที่ขา
“ การระงับการส่งแรงงานไปทำงานนอกประเทศเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้เราสามารถปรับโครงสร้างระบบการจ้างงานของเรา เและป้องกันไม่ให้เกิดกรณีที่น่าเศร้าเหมือนกับกรณีของ Adelina ซ้ำอีกครั้ง” Rusdi กล่าว โดยอ้างถึงแรงงานอพยพในส่วนที่ไม่เป็นทางการ
เขากล่าวว่า การละเมิดแรงงานของอินโดนีเซียก่อให้เกิดความตึงเครียดระหว่างทั้งสองประเทศ “ เพื่อเป็นการส่งเสริมความร่วมมือกัน สิ่งเลวร้ายที่เกิดกับ Adelina ไม่ควรเกิดขึ้นซ้ำอีกครั้ง” ท่านทูตกล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงจาการ์ตาเมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา
โดย Rusdi ซึ่งเป็นเจ้าของ Lion Air Group สายการบินต้นทุนต่ำที่ใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซียด้วย ระบุว่า เขาได้พูดคุยกับท่านประธานาธิบดีเกี่ยวกับความเป็นไปได้เที่จะให้มีการระงับการส่งแรงงานในปีที่แล้ว
“ ท่านประธานาธิบดียังคงต้องการให้มีการระงับไปก่อน โดยเขาได้ปรึกษาเรื่องนี้กับนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียในการประชุมร่วมกันเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่ผ่านมา” เขากล่าว.