ยูเอ็นประณามเมียนนา
ยูเอ็นเป็นห่วงการสู้รบในเมียนมาระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มกองโจรเคไอเอ ทางเหนือติดกับพรมแดนจีนและอินเดีย คาดว่า มีผู้เสียชีวิตและอพยพประมาณ 1,800 คัน ขณะที่การสู้ระหว่างในรัฐยะไข่ยังสร้างปัญหาผู้อพยพกว่า 6 แสนคน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 6 ก.พ. ว่า รายงานด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผยแพร่ในวันเดียว กัน แสดงความเป็นห่วงเรื่องการสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มกองโจรในสังกัดกองทัพปลดแอกกะฉิ่น (เคไอเอ) ในหลายพื้นที่รวมทั้งเมืองซูนปะยาบูน ไวร์มอและตะไนของรัฐกะฉิน ทางเหนือเมียนมา ติดพรมแดนจีนและอินเดียที่ดุเดือดรุนแรงมาตั้งแต่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังมีรายงานพลเรือนเสียชีวิตหรือบาดเจ็บจำนวนหนึ่งด้วย โดยที่เมืองตะไน มีรายงานคนอพยพหนีการสู้รบราว 1,800 คนส่วนใหญ่เป็นแรงงาน แต่ยังเหลือผู้อยู่ในเขตสู้รบออกมาไม่ได้อีกมาก เคไอเอเป็น1ในกองกำลังทรงพลังมากที่สุดในเมียนมา สู้รบกับกองทัพเมียนมาเป็นระยะมาตั้งแต่ปี 2554 หรือหลังข้อตกลงหยุดยิงขาดสะบั้น
รายงานยังระบุด้วยว่า ผลจากการสู้รบตั้งแต่กลางเดือนธ.ค.ปีที่แล้วและช่วงวันที่ 27 ม.ค. พบมีลูกปืนครกถูกยิงมาตกใกล้ค่ายผู้ภัยในเมืองไวร์มอ ถึง3 ครั้ง สำหรับเมืองไวร์มอ ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำอิรวะดี ตรงข้ามฝั่งมิตจินา เมืองเอกของรัฐกะฉิ่น
เมียนมา ยังถูกนานาชาติกดดันและตรวจสอบจากกรณีใช้กำลังแก้ปัญหาวิกฤติผู้ลี้ภัยชาวมุสลิมโรฮีนจาในรัฐยะไข่ ติดพรมแดนบังกลาเทศที่มีผู้อพยพหนีภัยสู้รบกว่า 600,000 คนซึ่ง นางยางฮี ลี เจ้าหน้าที่สอบสวนด้านสิทธิมนุษยชนของยูเอ็น ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพื้นที่ชาวโรฮีนจารวมทั้งไม่ให้เข้ารัฐกะฉิ่นและรัฐฉานที่มีปัญหาสู้รบเช่นเดียวกัน.