มาเลย์พลาดเป้างบประมาณสมดุล

มาเลเซียไม่สามารถบริหารจัดการให้งบประมาณสมดุลได้ตามเป้าภายในปี 2563 และอาจต้องใช้เวลามากขึ้นอีก 2-3 ปีเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังแถลงเมื่อวันที่ 4 ม.ค.
การปรับเปลี่ยนเป้าหมายงบประมาณมีขึ้นหลังจากมีความเห็นจากสำนักจัดอันดับในปลายปี 2560 ว่า เศรษฐกิจของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อให้บรรลุตามเป้าประสงค์จากเงื่อนเวลาของการใช้จ่ายของรัฐบาล
“ ผมไม่คิดว่า ภายในปี 2563 รัฐบาลจะสามารถทำให้งบประมาณสมดุลได้ เพราะหากเราทำเช่นนั้น โดยพื้นฐานแล้ว เราต้องบีบการพัฒนาทางเศรษฐกิจ” โจฮารี อับดุล กานี รัฐมนตรีช่วยคลังกล่าวในการแถลงข่าว โดยเสริมว่า รัฐบาลต้องใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ “เราจะพยายามขยายเวลาออกไปจนถึงปี 2565-2566 ”
โดยเขาย้ำถึงการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ของรัฐบาลว่า การขาดดุลงบประมาณจะลดลงเหลือ 2.8% ของตัวเลขจีดีพีปีนี้ จากเดิม 3% ในปี 2560
นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคสามารถลดการขาดดุลงบประมาณลงได้ทุกปีนับตั้งแต่เข้าสู่อำนาจในปี 2552 และส่งผลสำคัญต่อการรักษาอันดับเครดิตในการลงทุนของมาเลเซีย
อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์บางคนแสดงความเป็นห่วงถึงการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะชะลอความก้าวหน้าในการลดการขาดดุลงบประมาณลง
เมื่อเดือนต.ค. ปี 2560 นายกฯนาจิบ (ซึ่งอยู่ภายใต้แรงกดดันที่จะต้องเรียกคะแนนความนิยมในคณะรัฐบาลกลับคืนมาให้ได้) ได้เผยถึงงบประมาณที่เขาตั้งเป้าเพื่อให้ส่งผลต่อการเลือกตั้งระดับชาติที่จะมีขึ้นในเดือนส.ค.ปีนี้
โดยเขาประกาศจะใช้จ่ายงบประมาณเพิ่มขึ้น 7.5% สำหรับปีนี้ เมื่อเทียบกับปี 2560 และระบุว่า รัฐบาลมีแผนจะลดภาษีรายได้ส่วนบุคคลสำหรับประชาชนที่มีรายได้น้อย จ่ายเงินบำนาญมากขึ้น และให้เงินอุดหนุนนับพันล้านแก่โรงเรียน โรงพยาบาล และปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในชนบท
หลังจากการประกาศงบประมาณปี 2561 สถาบันจัดอันดับมูดีส์ระบุว่า ไม่ได้คาดการณ์ว่ามาเลเซียจะสามารถทำให้งบประมาณสมดุลได้ตามเป้าภายในปี 2563 นอกจากนี้ การใช้จ่ายของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นเป็นการทำเพื่อหวังผลในการเลือกตั้ง และขาดการปฏิรูปรายได้เพื่อลดการขาดดุลงบประมาณ
ทั้งนี้ นายกฯ นาจิบต้องเผชิญกับการเลือกตั้งครั้งสำคัญที่ยากลำบาก เนื่องจากที่ผ่านมา ชื่อเสียงของเขามัวหมองจากข่าวฉาวที่พัวพันกับการทุจริตในกองทุน 1MDB ที่รัฐเป็นเจ้าของ และมีความท้าทายเพิ่มขึ้นจากอดีตนายกฯ มหาเธร์ ที่เป็นคู่แข่งคนสำคัญ
เศรษฐกิจของมาเลเซียขยายตัวเติบโตสูงที่สุดในรอบ 3 ปีกว่าในไตรมาส 3 ของปี 2560 เป็นการฟื้นตัวกลับขึ้นมาจากปี 2559 ที่ต้องประสบกับปัญหาราคาน้ำมันตกต่ำอย่างหนัก