แผ่นดินไหวที่อินโดนีเซีย
เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6.5 แมกนิจูดที่เกาะชวาตะวันตก ซึ่งเป็นเกาะหลักของอินโดนีเซียเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 รายและทำให้อาคารพังเสียหายจำนวนมาก
สำนักบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซียแถลงว่า เหตุแผ่นดินไหวทำให้ระบบเตือนภัยสึนามิทำงานบนเกาะชวาตะวันตก และมีคำสั่งให้อพยพประชาชนในบริเวณที่อยู่อาศัยตามชายฝั่ง แต่ก็ไม่เกิดเหตุสึนามิขึ้น
สามารถรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนในบริเวณตอนกลางและชวาตะวันตก และเกิดเหตุอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายครั้ง
Sutopo Purwo Nugroho โฆษกสำนักบรรเทาภัยพิบัติ ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ว่า มีผู้เสียชีวิต 2 รายจากเหตุแผ่นดินไหว มีผู้บาดเจ็บ 7 รายและมีอาคารมากกว่า 100 แห่งที่พังถล่มเสียหาย รวมทั้งโรงพยาบาลหนึ่งแห่งในชวาตอนกลาง
คนไข้ประมาณ 70 รายได้รับการช่วยเหลือให้ออกมาจากโรงพยาบาล Banyumas อย่างปลอดภัยและพักอยู่ในเต็นท์พักพิงชั่วคราว เขากล่าว นอกจากนี้ เขายังได้โพสต์ภาพผู้บาดเจ็บจากอาคารที่พังเสียหายลงบนทวิตเตอร์อีกด้วย
โดยเหตุแผ่นดินไหวทำให้อาคารหลายหลังสั่นสะทือนอย่างรุนแรงอยู่นานหลายวินาทีในกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย
Web Warouw ผู้ซึ่งอาศัยในกรุงจาการ์ตา และอยู่บนชั้น 18 ของอาคารในเมืองหลวงขณะที่เกิดเหตแผ่นดินไหวเล่าให้ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าว AFP ฟังว่า “จู่ๆ รู้สึกเหมือนวิงเวียน มึนศีรษะ แต่แล้วก็รู้สึกได้ว่า นี่คงเป็นแผ่นดินไหวแน่ๆ เลยรีบวิ่งลงบันไดมา”
ประชาชนที่อาศัยในบริเวณชายฝั่งของเมือง Cilacap ต่างพากันอพยพออกจากพื้นที่ ด้วยความกลัวว่าจะเกิดสึนามิครั้งใหญ่
นอกจากนี้ ยังมีรายงานความเสียหายที่เกิดกับบ้านเรือนในเมือง Tasikmalaya ซึ่งอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวออกไปประมาณ 50 ก.ม.
ทั้งนี้ ชาวอินโดนีเซียเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับเหตุแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดค่อนข้างบ่อย เนื่องจากที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของประเทศที่อยู่บน ‘วงแหวนแห่งไฟ’ ที่ซึ่งเปลือกโลกแยกจากกัน
โดยเหตุแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดของอินโดนีเซียเกิดขึ้นในจังหวัดอาเจะห์ ทางตะวันตกของประเทศในเดิอนธ.ค.ปี 2559 คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 100 ราย ทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก และประชาชนนับหมื่นต้องไร้ที่อยู่อาศัย.