ดูเตอร์เตเสนอสัมปทานสื่อสารให้จีน
ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตเสนอโอกาสให้ไชน่า เทเลคอมเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายที่ 3 ในฟิลิปปินส์ เพื่อลดความได้เปรียบของอีกสองบริษัทในประเทศ โฆษกของประธานาธิบดีแถลงเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา
แฮร์รี โร้ก โฆษก กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ข้อเสนอที่ให้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของประธานาธิบดีดูเตอร์เตเพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับฟิลิปปินส์ ทำให้กลายเป็นประเด็นทางการเมืองรวมถึงเป็นการพิจารณาทางเศรษฐกิจอีกด้วย
“นี่เป็นการเจรจาทวิภาคีระหว่างฟิลิปปินส์กับจีน และบริษัทที่ถูกเลือกจากจีนในท้ายที่สุดคือไชน่า เทเลคอม ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก” เขาให้ข้อมูล
“นี่เป็นการตัดสินใจทางการเมืองของท่านประธานาธิบดีเพื่อเสนอโอกาสให้บริษัทจากจีน ผมเดาว่า ท่านมีเจตนาจะกระชับความสัมพันธ์กับจีนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น”
โดยผู้นำฟิลิปปินส์กล่าวย้ำว่า เขาต้องการแนะนำบริษัทรายที่ 3 เข้าสู่อุตสาหกรรมโทรคมนาคมของฟิลิปปินส์เพื่อกระจายการแข่งขันและปรับปรุงการให้บริการ
ที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์มีชื่อเสียงในด้านลบว่า เป็นหนึ่งในประเทศที่มีสปีดอินเทอร์เน็ตที่ช้าที่สุดในเอเชีย ลูกค้าไม่มีทางเลือกนอกจากผู้ให้บริการสองรายเดิมในประเทศคือ PLOT และ Globe Telecom
ในระหว่างการไปเยือนกรุงมะนิลาเมื่อเดือนต.ค. แจ็ค หม่า ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งอาลีบาบาและมหาเศรษฐีจากโลกอินเทอร์เน็ตของจีนให้ความเห็นเกี่ยวกับสปีดอินเทอร์เน็ตของฟิลิปปินส์ว่า “ ไม่ดี ”
ถึงแม้โฆษกจะระบุว่า รัฐบาลจีนได้เลือกให้บริษัทไชน่า เทเลคอมเป็นตัวแทนที่เหมาะสมสำหรับสัมปทานการสื่อสารโทรคมนาคมนี้ แต่บริษัทกล่าวว่ายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะรับข้อเสนอนี้หรือไม่
“ไชน่า เทเลคอมกำลังทำการศึกษาเบื้องต้นถึงโอกาสในการลงทุนในฟิลิปปินส์ และยังไม่มีการตัดสินใจถึงแผนการที่ชัดเจน” บริษัทระบุในแถลงการณ์
ทั้งนี้ ตั้งแต่ประธานาธิบดีดูเตอร์เตขึ้นสู่อำนาจเมื่อกลางปีที่แล้ว เขาแสดงท่าทีว่าต้องการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างฟิลิปปินส์กับจีนให้ใกล้ชิดกันมากขึ้นทั้งด้านเศรษฐกิจ กองทัพ และการเมือง แทนที่จะเป็นแต่เพียงพันธมิตรของสหรัฐฯเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์ตั้งข้อสงสัยว่า เขาเสนอโอกาสให้จีนมากเกินไป อาจทำให้ประเทศมีความเสี่ยงที่จะตกอยู่ภายใต้แรงกดดันทางการเมืองและเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ยังมีความกังวลในประเด็นคอร์รัปชันด้วย เนื่องจากการลงทุนระหว่างฟิลิปปินส์และบริษัทด้านการสื่อสารโทรคมนาคมของจีนจบลงอย่างย่ำแย่เมื่อทศวรรษก่อน โดยสัญญาด้านบรอดแบนด์มูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์กับบริษัทยักษ์ใหญ่ ZTE ถูกยกเลิกไปในปี 2550 หลังจากมีข่าวฉาวในประเด็นการให้สินบนที่ส่งผลต่ออดีตประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย.