ไต้ฝุ่นด็อมเรยถล่มเวียดนาม
ทางการเวียดนามรายงานว่า อิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นด็อมเรยทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 20 ราย ทางตอนกลางและตอนใต้ของเวียดนามเมื่อวันที่ 4 พ.ย. หลังจากพัดถล่มเข้ามาในประเทศก่อนหน้าที่จะมีการประชุมครั้งสำคัญเอเปกซึ่งจะมีผู้นำจากหลายชาติในเอเชีย-แปซิฟิกเข้าร่วม
โดยพายุไต้ฝุ่นด็อมเรย (ซึ่งเป็นพายุลูกที่ 12 ที่มาจากทะเลตะวันออกของปีนี้) พัดถล่มเข้าพื้นที่ของประเทศเวียดนามในเวลา 04.00 น.ของวันที่ 4 พ.ย.ตามเวลาท้องถิ่น ด้วยกำลังแรงลมสูงถึง 90 ก.ม.ต่อชั่วโมง ทำลายหลังคาบ้านเรือนพังเสียหายไปมากกว่า 1,000 หลังคาเรือน เสาไฟฟ้าและต้นไม้โค่นล้มหลายร้อยต้น อ้างอิงจากเพจเฟซบุ๊กของรัฐบาล
เฉพาะในจังหวัดคั้ญฮหว่าเพียงจังหวัดเดียว ก็มีผู้เสียชีวิตมากถึง 12 ราย และจนถึงตอนนี้มีผู้สูญหายแล้วอย่างน้อย 17 รายและมีบ้านที่ถูกพายุพัดทำลายไปเกือบ 24,000 หลัง เรือนอกชายฝั่งในจังหวัดฝูเอียนจมลงมากถึง 40 ลำ
นอกจากนี้ ยังมีเรือพลิกคว่ำ 6 ลำพร้อมกับผู้โดยสารบนเรือ 61 คนในทะเลจีนใต้ และ 25 คนได้รับการช่วยช่วยเหลือ แต่ยังคงไม่มีรายละเอียดของผู้เคราะห์ร้ายคนอื่นๆ
พายุพัดถล่มเข้าฝั่งใกล้กับเมืองญาจาง ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งทางคอนใต้ของเมืองดานังประมาณ 500 ก.ม. โดยเมืองดานังเป็นเมืองที่จะมีการจัดการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปกในสัปดาห์หน้า
มีรายงานถึงสภาพลมที่พัดรุนแรงและฝนตกอย่างหนักในเมืองดานังอยู่ แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
จังหวัดกว๋างนามและคั้ญฮหว่ามีปริมาณน้ำฝนสะสมจากฝนที่ตกหนักราว 100-200 ม.ม.และคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้พายุจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันในช่วงบ่ายของวันที่ 4 พ.ย.
ทั้งนี้ พายุด็อมเรยยังเคลื่อนตัวจากพื้นที่ชายฝั่งไปยังพื้นที่เพาะปลูกกาแฟสำคัญ โดยเป็นพื้นที่ปลูกกาแฟโรบัสตาที่ใหญ่ที่สุดในโลก บรรดาผู้ค้ากาแฟคาดการณ์ว่าพายุจะส่งผลทำให้การเก็บเกี่ยวต้องล่าช้าออกไป แต่ยังไม่แน่ใจว่า จะสร้างความเสียหายกับผลผลิตมากเพียงใด
รัฐบาลประกาศว่า พื้นที่เพาะปลูกอ้อย ทุ่งนา พื้นที่สวนยางหลายพันเฮกตาร์ถูกทำลายเสียหายหนัก และมีการประกาศยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 40 ไฟลท์
ที่ผ่านมา สภาพน้ำท่วมหนักทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 80 รายทางตอนเหนือของเวียดนามในเดือนต.ค. ขณะที่พายุไต้ผุ่นสร้างความเสียหายอย่างหนักในพื้นที่ตอนกลางของเวียดนามในเดือนก.ย.
ทั้งนี้ เวียดนามซึ่งมีจำนวนประชากรมากกว่า 90 ล้านคนได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากพายุและน้ำท่วมในพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่ค่อนข้างยาว.