ลาวเป็นตลาดงาช้างที่โตเร็วสุดในโลก
ตลาดขายงาช้างที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกอยู่ในลาว อ้างอิงจากการสืบสวนขององค์กร Save the Elephants ในเคนยา
จีนกำลังจะมีกฎหมายห้ามการซื้อขายงาช้างภายในสิ้นปี 2560 แต่ธุรกิจประเภทนี้กำลังบูมขึ้นอย่างมากในประเทศเพื่อนบ้าน
โดยทีมสืบสวนได้เข้าไปสืบในคาสิโนรีสอร์ตของจีนริมแม่น้ำโขงแห่งหนึ่ง พวกเขาบรรยายว่า ที่แห่งนี้ซึ่งเป็นศูนย์กลางการพนันและการซื้อขายบริการทางเพศ มีการซื้อขายงาช้างในกลุ่มผู้ใช้บริการชาวจีนมากกว่า 80%
ของการขายทั้งหมด คณะผู้จัดทำการวิจัยพบว่ามีร้านค้าหลายสิบร้านที่ขายสินค้าทำจากงาช้างนับพันชิ้น ทั้งงาช้างแกะสลัก เครื่องประดับที่ทำจากงาช้าง ทั้งจี้สร้อยคอ ต่างหู กำไล ซึ่งมีการซื้อขายกันอย่างเสรีในสถานที่แห่งนี้
เหมือนกับในเวียดนามและเมียนมาคือ ราคาสินค้าที่วางขายในลาวมีราคาถูกกว่าในจีนแผ่นดินใหญ่ และกฎหมายที่หย่อนยานไม่เข้มงวด ทำให้การซื้อขายข้ามพรมแดนที่ผิดกฎหมายไม่ถูกตำรวจจับกุมแต่อย่างใด
“ จากการขาดประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย การขายสินค้าที่ทำจากงาช้างให้กับผู้บริโภคชาวจีนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ” เอสมอนด์ มาร์ติน นักวิจัยกล่าว
ทั้งนี้ ช้างแอฟริกันหลายหมื่นตัวถูกฆ่าทุกปีเพื่อนำงาช้างมาขาย และผู้ซื้อชาวจีนหลบหลีกจากการห้ามซื้อขายงาช้างในประเทศออกมาช้อปปิ้งในประเทศเพื่อนบ้านแทน
องค์กรอาชญากรรมระหว่างประเทศหลายแห่งต่างเกี่ยวข้องกับการค้างาช้างโดยแรงงานเถื่อน ซึ่งได้แรงสนับสนุนจากการคอร์รัปชันทั่วเอเชีย
เอียน ดักกลาส แฮมิลตัน ผู้ก่อตั้งองค์กร Save the Elephants กล่าวว่า การตัดสินใจของจีนที่ห้ามการซื้อขายงาช้างในประเทศภายในสิ้นปีนี้ และจำนวนคนต่อต้านการขายงาช้างที่เพิ่มขึ้น เป็นสิ่งที่มีความสำคัญและมีความหมายมาก
“ แต่มันไม่ใช่มาตรการที่ครอบคลุม ต้องมีโครงสร้างกฎหมายที่ห้ามการซื้อขายในประเทศเพื่อนบ้านด้วย ขณะที่ผู้ที่ต้องการซื้อและขายงาช้างอยู่ตามพื้นที่ชายแดน และเปิดร้านในประเทศเพื่อนบ้าน “
องค์กร Save the Elephants ระบุว่า ตลาดค้าปลีกที่กำลังเติบโตในลาวคือภัยร้ายแรงล่าสุดต่อช้างแอฟริกัน
Lucy Vigne หัวหน้านักเขียนรายงานกล่าวว่า ลาวจำเป็นต้องก้าวให้ทันเพื่อรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น
“ เนื่องจากขาดแรงกดดันจากนานาชาติที่แข็งแกร่งและต่อเนื่องในการสั่งห้ามการซื้อขายงาช้างในลาว และไม่ได้รับความสนใจจากรัฐบาลลาวเองด้วย การค้างาช้างจึงขยายตัวเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ”
