ไต้ฝุ่นทกซูรีถล่มเวียดนาม/มาเลย์
พายุไต้ฝุ่นทกซูรีพัดถล่มพื้นที่ตอนกลางของเวียดนามในวันที่ 15 ก.ย. ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 10 ราย และทำให้มีฝนตกหนัก ลมพัดแรงจนหลังคาบ้านเรือนและเสาไฟฟ้าพังเสียหาย
โดยแรงลมของพายุไต้ฝุ่นทกซูรีคือ 135 ก.ม.ต่อชั่วโมง ทำให้มีดินถล่มในจังหวัดฮา ตินห์ และถล่ม 6 เขตเมืองชายฝั่ง ทำลายหลังคาบ้านเรือนพังเสียหายไปถึง 62,500 หลัง ต้นไม้หักโค่น และเสาไฟฟ้าล้ม อ้างอิงจากรายงานของโง ดุ๊ก ฮอย เจ้าหน้าที่ฝ่ายบรรเทาสาธารณภัย
มีรายงานผู้เสียชีวิต 1 รายและได้รับบาดเจ็บ 10 รายจากต้นไม้และซากอาคารหักพังล้มทับ เจ้าหน้าที่กล่าว และเสริมว่า มีบ้านอีก 50,000 หลังที่พังเสียหาย โดยส่วนใหญ่หลังคาสังกะสีของบ้านถูกพายุพัดปลิวไป นอกจากนี้ มีรายงานไฟฟ้าดับทั้งจังหวัดกว่าง บินเนื่องจากทางการต้องตัดกระแสไฟฟ้าล่วงหน้าก่อนไต้ฝุ่นจะมา และมีรายงานน้ำท่วมขังในหลายหมู่บ้าน
ทั้งนี้ ไต้ฝุ่นทกซูรีพัดผ่านฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 รายและสูญหายอีก 6 ราย
สำนักบริหารจัดการภัยพิบัติเวียดนามรายงานเมื่อช่วงเช้าวันที่ 15 ก.ย.ว่า ต้องมีการอพยพประชาชนประมาณ 79,000 คนใน 5 จังหวัดตอนกลางของเวียดนามเนื่องจากมีความเสี่ยงสูง และอีก 210,000 คน ได้อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัยล่วงหน้าก่อนไต้ฝุ่นจะโหมกระหน่ำ
ขณะเดียวกัน อิทธิพลของพายุยังส่งผลให้เกาะปีนังในมาเลเซียมีฝนตกหนักตั้งแต่ช่วง 22.00 น.ของคืนวันที่ 14 ก.ย. ทำให้เกิดน้ำท่วมสูง ดินถล่ม และการจราจรติดขัดในเมือง
โฆษกของหน่วยดับเพลิงและกู้ชีพของปีนังรายงานว่า บริเวณที่ถูกน้ำท่วมคือย่าน จาลัน พี รัมลี, จาลัน มัสยิด เนเกรี, บาตุ เฟอร์ริงกิ และอีกหลายพื้นที่ใน เซเบรัง เปไร
นอกจากนี้ มีรายงานการจราจรติดขัดในย่านจอร์จทาวน์ เนื่องจากต้องมีการปิดถนนที่มีน้ำท่วมขังหลายสายในช่วงเช้าวันที่ 15 ก.ย.
อ้างอิงจากรายงานข่าวของสื่อ The Star ในบริเวณจาลัน พี รัมลี มีน้ำท่วมสูงถึง 1.5 เมตร
สื่อในมาเลเซียรายงานว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักท่วมต้นไม้จำนวนมาก และทำให้เกิดดินถล่มในบริเวณพื้นที่ เมดัน เฟตเตส และปายา เตรุบง
มีภาพแพร่กระจายในโซเชียลมีเดียที่แสดงให้เห็นโรงพยาบาลและโรงอาหารในโรงเรียนหลายแห่งมีน้ำท่วมถึงข้อเท้า
อ้างอิงจากข้อมูลจากทางการ ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืน ทำให้มีปริมาณน้ำฝนสะสมสูงสุดเท่าที่เคยมีบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของรัฐคือ 270 ม.ม. วัดได้จากเขื่อนแอร์ อิตัมในเช้าวันที่ 15 ก.ย.
ขณะเดียวกัน รายงานจากสำนักการระบายน้ำและชลประทานระบุว่า ระดับน้ำในแม่น้ำซุงไก ปีนังและ ซุงไก แอร์ อิตัม วัดได้ปริมาณสูงสุดคือ 3.2 เมตร และ 7.3 เมตรตามลำดับในช่วงเช้าวันที่ 15 ก.ย.และในช่วงบ่ายวันที่ 15 ก.ย. สภาเทศบาลเมืองปีนังได้ส่งเจ้าหน้าที่ประมาณ 100 คนไปทำความสะอาดพื้นที่ของเมืองและซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วม.