ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเวียดนามพุ่งสูงสุด
เวียดนามรั้งอันดับ 5 ในการจัดอันดับประเทศที่มองในแง่ดีทั่วโลกด้วยคะแนนที่สูงถึง 117 จุดในดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เผยแพร่โดย Nielsen ซึ่งเป็นคะแนนสูงที่สุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา และสูงกว่าถึง 5 จุดจากไตรมาสสุดท้ายของปี 2559
โดยในรายงานยังได้ระบุว่า ผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในบรรดาประเทศที่มีตัวเลขเชื่อมั่นของผู้บริโภคสูงสุดในโลก
ถึงแม้จะปรับเพิ่มขึ้นเพียง 2 จุด แต่ฟิลิปปินส์ที่ได้คะแนนถึง 130 จุด ก็สามารถแซงผ่านอินเดียที่ได้ 121 จุดขึ้นมาเป็นประเทศที่มีความเชื่อมั่นชองผู้บริโภคสูงสุดในโลกได้
อินโดนีเซียอยู่ในอันดับ 4 ด้วยคะแนน 122 จุด ขณะที่ประเทศไทยติดอยู่ในอันดับที่ 10 ด้วยคะแนน 104 จุด แต่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับลดระดับลงในมาเลเซียและสิงคโปร์ ด้วยคะแนน 94 และ 87 จุดตามลำดับ
แต่ไม่เหมือนกับปีที่แล้ว คือผู้บริโภคในเวียดนามไม่ได้อยู่ในกลุ่มประเทศออมเงินสูงสูดอีกต่อไปแล้ว โดยจากผลการศึกษาพบว่า 63% ของชาวเวียดนามออมเงิน ( เมื่อเทียบกับ 76% ในไตรมาสก่อนหน้า)ตามหลังไทย ( 69%) สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ( 66%)
ผู้บริโภคในเวียดนามยังคงใช้จ่ายเงินซื้อของชิ้นใหญ่อย่างต่อเนื่อง หลังจากมีเงินเพียงพอที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพแล้ว ประมาณ 1 ใน 3 ของชาวเวียดนามตั้งใจจะใช้เงินกับการท่องเที่ยวในวันหยุด ( 38%) ซื้อเสื้อผ้าใหม่ ( 36%) สินค้าไฮเทคใหม่ๆ ( 31%) ปรับปรุงบ้าน ( 30%) และหาความบันเทิงนอกบ้าน ( 29%)
เหวียน หวง กวิน กรรมการผู้จัดการของ Nielsen ประจำเวียดนามกล่าวว่า “ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเวียดนามปรับดีขึ้น โดยผู้บริโภคในเวียดนามให้ความใส่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ได้รับอิทธิพลจากคำบอกเล่าและโซเชียลมีเดีย และมีการขานรับอย่างเร็ว ซึ่งทำให้ผู้บริโภคมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง”
“ ดังนั้น ผู้ผลิตและผู้ค้าปลีกจำเป็นต้องมี ‘ เวลาจริง’ ในการเข้าใจในเทรนด์ของผู้บริโภคเกิดใหม่ และขานรับอย่างรวดเร็วเพื่อให้สอดคล้องกับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น ”
สิ่งที่ผู้บริโภคเวียดนามเป็นกังวลใน 5 อันดับแรกยังคงเหมือนเดิมกับในไตรมาสสุดท้ายของปี 2559
โดยความมั่นคงของงานยังคงนำเป็นอันดับ 1 ด้วยคะแนน 48% รองลงมาคือด้านสุขภาพ ( 38%) ความสมดุลของงานกับชีวิต ( 17%)
“ ขณะที่ผู้บริโภคมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคต ความมั่นคงทางการเงินยังคงเป็นเรื่องแรกที่พวกเขาให้ความสนใจ ทั้งความมั่นคงของงานและแนวโน้มเศรษฐกิจมีผลกระทบโดยตรงกับความมั่นคงทางการเงินของผู้บริโภค และเป็นประเด็นสำคัญของความกังวล”
“ ไม่แปลกใจเลยที่ข้อมูลชี้ว่า ผู้คนแสวงหาชีวิตที่มีสุขภาพดี หรือแม้แต่ความร่ำรวย ดังนั้น เทรนด์ช่วยให้โอกาสกับทั้งผู้ผลิตและผู้ค้าปลีกที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมและพัฒนาการนำเสนอในยุคต่อไป”.