อินโดฯ เร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน

ในปีหน้า รัฐบาลอินโดนีเซียมีแผนใช้จ่ายเงินงบประมาณจำนวน 404 ล้านล้านรูเปียห์ (30,230 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
อ้างอิงจากร่างงบประมาณของรัฐที่ประธานาธิบดีโจโควิโดโดประกาศเมื่อวันที่ 17 ส.ค.โดยในปีนี้ รัฐบาลตั้งเป้าจะใช้งบประมาณถึง 387.70 ล้านล้านรูเปียห์
โดยประธานาธิบดีโจโค วิโดโด หรือที่เรียกกันว่าโจโควี่ อธิบายว่าจะมีโครงการก่อสร้างถนนสายใหม่ๆ ความยาว 856 กิโลเมตรและเส้นทางการชลประทานความยาว 781 กิโลเมตร
“ คาดการณ์ว่าจะมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างเร่งด่วนเพื่อหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและปรับปรุงการเชื่อมโยงในระหว่างภูมิภาค ” ผู้นำอินโดนีเซียระบุขณะอ่านเอกสารการคลังในระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโจโควี่เสริมว่า รัฐบาลจะมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านสุขาภิบาลอีกด้วยเพื่อบริหารจัดการน้ำเสียที่ปล่อยมาจาก 853,000 ครัวเรือน มีการสร้างโรงบำบัดน้ำเสีย และพัฒนาอพาร์ทเมนท์ราคาถูก 7,062 แห่งเพื่อครอบครัวผู้มีรายได้น้อย
ขณะเดียวกัน นายบาสุกิ ฮาดิมุลโจโน รัฐมนตรีกระทรวงโยธาธิการและการเคหะระบุว่า 41.30% ของงบประมาณทั้งหมดจะถูกใช้ในการก่อสร้างถนน และสำหรับบำรุงรักษาถนนที่มีอยู่เดิม 46,000 สายทั่วประเทศ
โดยรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 37 ล้านล้านรูเปียห์ในการก่อสร้างและซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานการชลประทาน ประกอบด้วยเขื่อนใหม่ 11 แห่ง โครงข่ายงานชลประทานพื้นที่ 54,000 เฮกตาร์ และซ่อมบำรุงโครงข่ายชลประทานที่มีอยู่เดิมพื้นที่ 160,000 เฮกตาร์
นอกจากนี้ รัฐมนตรียังได้เสริมว่า สำหรับการบำบัดน้ำเสีย และโครงสร้างพื้นฐานน้ำประปา รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณไว้ให้จำนวน 16 ล้านล้านรูเปียห์
“ จะมีการเปิดให้เสนอราคาเพื่อประมูลโครงการก่อสร้างของรัฐบาลสำหรับปีงบประมาณ 2561 ในเดือนต.ค.ปีนี้ ” เขากล่าว โดยเสริมว่า ถึงแม้จะเป็นโครงการที่ได้รับเงินงบประมาณจากภาครัฐในการก่อสร้าง แต่รัฐบาลจะเชิญชวนภาคเอกชนให้เข้ามาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานผ่านโครงการความร่วมมือภาครัฐและภาคเอกชน (PPPs).
หมายเหตุ 1,000 รูเปียห์ = 2.68 บาท / 22 ส.ค.2560
1 ดอลลาร์สหรัฐฯ = 33.44 บาท / 22 ส.ค. 2560