เมียนมาเลือกผลิตไฟฟ้าใช้เอง
รัฐบาลเมียนมายืนยันว่าแผนการที่จะผลิตกระแสไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าในประเทศยังคงเดินหน้าตามเดิม แม้จะมีหลายประเทศเพื่อนบ้านทั้งจีน ไทย ลาวและอินเดียเสนอขายไฟฟ้าให้เมียนมาก็ตาม อู มินท์ โซ รองเลขานุการถาวรประจำกระทรวงไฟฟ้าและพลังงานกล่าวกับสื่อเมียนมาไทม์
ยังไม่มีการกำหนดรายละเอียดของข้อตกลงในการซื้อไฟฟ้าจากประเทศอื่นๆ และคงไม่มีความจำเป็นสำหรับเมียนมาที่จะพิจารณาถึงข้อตกลงใดๆในตอนนี้ อู มินท์ โซกล่าว
“ จีนเสนอขายกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้เกินกำลังสำรองให้แก่ประเทศของเรา แต่เรายังไม่ได้ให้คำตอบ เรายังอยู่ในขั้นตอนของการทำประชาพิจารณ์ แต่สำหรับตอนนี้ เราสามารผลิตไฟฟ้าได้จากโรงไฟฟ้าของเราเอง โดยเราได้มีการบริหารจัดการเรื่องนี้สำหรับปีหน้าแล้ว” เขากล่าว
เมียนมาเป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติ (ซึ่งเป็นแหล่งผลิตพลังงานสำคัญ ) ให้จีนและไทย ซึ่งเป็นประเทศที่อยู่ในกลุ่มประเทศที่เสนอขายไฟฟ้าให้เมียนมาภายใต้ข้อตกลงที่ทำไว้ในเงื่อนไขของรัฐบาลก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ เมียนมาเป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติจำนวน 300 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันให้จีน และอีก 1.4 ล้านลูกบาศก์ฟุตให้กับไทย แต่ในขณะนี้ ทั้งจีนและไทยต่างก็เสนอขายไฟฟ้าที่ผลิตได้เกินกำลังสำรองมาตรฐานของทั้งสองประเทศคืนกลับมาให้กับเมียนมา
เมียนมาควรตอบรับข้อเสนอของประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ ? ดร.ออง โก โก นักเศรษฐศาสตร์ประเมินหาคำตอบว่า เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้า ก็ควรซื้อจากประเทศที่มีกำลังไฟฟ้าสำรองเกินมาตรฐาน
ถึงแม้ทางกระทรวงไฟฟ้าและพลังงานจะได้บริหารจัดการให้เพียงพอกับความต้องการบริโภคตลอดทั้งปี แต่ความต้องการใช้ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นทุกปี เนื่องจากมีนักลงทุนเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นในเมียนมาและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้ผ่านภาวะการดิ้นรนอย่างหนักจากตัวเลขขาดทุนตลอดทั้งปี เนื่องจากต้องอุดหนุนภาษีไฟฟ้าให้แก่ประชาชน และตอนนี้มีประชากรเพียง 30% ในเมียนมาที่มีไฟฟ้าใช้
อ้างอิงจากแผนพัฒนาไฟฟ้าแห่งชาติซึ่งร่างขึ้นโดยได้รับความช่วยเหลือจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) ปริมาณการบริโภคไฟฟ้าทั่วประเทศเมียนมาจะสูงถึง 4,531 เมกะวัตต์ภายในปี 2563 และ 8,121 เมกะวัตต์ในปี 2568 และ 14,542 เมกะวัตต์ในปี 2573 โดยทางกระทรวงคาดการณ์ว่า จะสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้เต็มกำลัง 100% ภายในปี 2573.