ผู้นำอินโดฯ เน้นเฝ้าระวังภัยจากกลุ่มหัวรุนแรง
ประธานาธิบดีโจโค วิโดโดกล่าวเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ว่า อินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลกจำเป็นต้องรวมพลังกันเพื่อต้านภัยจากพวกคลั่งศาสนาหัวรุนแรงและปกป้องรัฐธรรมนูญที่ยอมรับในการนับถือศาสนาอย่างอิสระและความแตกต่างหลากหลาย
ในการกล่าวอภิปรายในสภาก่อนหน้าวันประกาศเอกราชของประเทศในวันที่ 17 ส.ค.ประธานาธิบดีวิโดโดกล่าวถึงความจำเป็นต้องแก้ไขความเหลื่อมล้ำในอินโดนีเซียซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และรับมือกับภัยคุกคามจากลัทธิหัวรุนแรง
เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ตำรวจอินโดฯสามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัย 5 รายซึ่งคาดว่าจะเป็นกลุ่มก่อการร้ายจากรัฐอิสลามและยึดสารเคมีได้ใกล้กับกรุงจาการ์ตา โดยพวกเขารับสารภาพว่าจะนำสารเคมีมาประกอบเป็นระเบิดเพื่อโจมตีทำเนียบประธานาธิบดีในช่วงสิ้นเดือนส.ค.นี้
ความตึงเครียดด้านศาสนาในอินโดฯ ก่อตัวเพิ่มมากขึ้นนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2559 หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ประชาชนมุสลิมซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศไม่พอใจคำพูดดูหมิ่นของผู้ว่าการที่มีเชื้อสายจีนและนับถือศาสนาคริสต์ ซึ่งจัดเป็นชนกลุ่มน้อยในอินโดฯ
“ เราต้องการที่จะทำงานร่วมกัน ไม่เพียงแต่สร้างความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังต้องมีการพัฒนาทั้งในด้านอุดมคติ การเมือง สังคมและวัฒนธรรมด้วย ” ผู้นำอินโดฯกล่าว
“ ในแง่อุดมคติ เราต้องสร้างความแข็งแกร่งและปกป้อง Pancasila ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญตั้งแต่ปี 2488 ซึ่งเป็นการรวมพลังกันของประเทศอินโดฯ และการรวมกันเป็นหนึ่งเดียวในแง่ของความแตกต่างหลากหลาย ”
Pancasila คือคตินิยมขั้นพื้นฐานของอินโดฯ ซึ่งเชื่อถือศรัทธาในพระเจ้า การรวมกันของประเทศ ความยุติธรรมและประชาธิปไตยของสังคม และปกป้องความแตกต่างทางศาสนาในระบบของทางโลกอย่างเป็นทางการ
แต่ยังคงมีความกังวลในเรื่องความไม่อดทนต่อประเพณีดั้งเดิมของอิสลามสายกลางในประเทศที่มีชาวมุสลิมประมาณ 85% ของประเทศ โดยที่เหลือคือชาวพุทธ คริสเตียน และชนกลุ่มน้อยอื่นๆ
เมื่อเดือนเม.ย. บาสุกิ จาฮาจา ปุรนามา ผู้ว่าการกรุงจาการ์ตา ซึ่งเป็นพันธมิตรของประธานาธิบดีวิโดโด ต้องพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งให้กับคู่แข่งซึ่งเป็นชาวมุสลิม และเขาถูกตัดสินให้จำคุกในข้อหาพูดจาดูหมิ่นผู้อื่น ซึ่งกลุ่มสิทธิและหน่วยงานนานาชาติต่างประณามว่าไม่ยุติธรรมและเป็นเรื่องทางการเมือง
ประธานาธิบดีวิโดโดยังกล่าวอีกว่า “ เพราะความท้าทายที่เราเผชิญอยู่ในขณะนี้ และที่จะต้องประสบในอนาคตไม่ใช่เรื่องง่าย เรายังต้องประสบกับปัญหาความยากจนและความไม่เป็นธรรม เรายังคงต้องเผชิญกับความผกผันของเศรษฐกิจทั่วโลก และเรายังต้องเผชิญกับความเคลื่อนไหวของพวกสุดโต่ง ลัทธิหัวรุนแรงและการก่อการร้าย ”
ทั้งนี้ เขายังได้กล่าวว่า รัฐบาลจำเป็นต้องทำให้แน่ใจว่าทุกหน่วยงานของรัฐได้รับความเชื่อมั่นอย่างสูงสุดจากประชาชน และย้ำว่าเขาได้จัดตั้งคณะทำงานของประธานาธิบดีเพื่อกำกับดูแลการสอนคตินิยมของรัฐธรรมนูญให้กับประชาชน โดยเฉพาะกับเด็กๆ.
