เวียดนามมุ่งให้ศก.โตตามเป้า
นายกรัฐมนตรีเหวียน ซวน ฟุกของเวียดนามเป็นประธานการประชุมสรุปภาพรวมเดือนก.ค.ที่ฮานอยเมื่อวันที่ 3 ส.ค. โดยเรียกร้องให้ใช้มาตรการอย่างเข้มข้นในทุกภาคส่วนเพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตตามเป้าที่ตั้งไว้
โดยนายกฯ ฟุกเน้นให้เห็นถึงแนวโน้มสถานการณ์เศรษฐกิจของเดือนก.ค.ในเชิงบวก โดยกล่าวว่าเงินเฟ้อและการเติบโตของสินเชื่อยังคงต้องควบคุมอย่างต่อเนื่อง ขณะที่รายได้จากการส่งออกและนำเข้าขยายตัวเติบโตเกือบ 19%
มีการดำเนินธุรกิจใหม่ประมาณ 73,000 แห่งและมากกว่า 17,000 ธุรกิจดำเนินการจัดตั้งในช่วงระหว่างเดือนม.ค.-ก.ค. ปีนี้
อ้างอิงจากกระทรวงวางแผนและการลงทุน ดัชนีราคาผู้บริโภคของเวียดนามในเดือนก.ค.เติบโต 0.11% จากเดือนก่อน และสินเชื่อเติบโต 8.92% จากเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ผลผลิตอุตสาหกรรมขยายตัว 6.5% การผลิตและการแปรรูปขยายตัวขึ้น 10.6% ขณะที่ภาคค้าปลีกและบริการเติบโตถึง 10% โดยมีนักเดินทางต่างชาติมาเยือนเวียดนามถึง 7.24 ล้านคนใน 7 เดือนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นถึง 28.8% เมื่อเทียบกับปี 2559
โดยเวียดนามดึงดูดเงินทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ( FDI) ได้สูงถึง 21,930 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นถึง 52% เมื่อเทียบกับปีก่อน มีการจ่ายเงิน FDI มาแล้วประมาณ 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 5.8% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ก็มีความยากลำบากในส่วนการผลิตและกิจกรรมทางธุรกิจ เนื่องจากมีหลักฐานว่า 43,000 บริษัทหยุดดำเนินธุรกิจต่อไป ซึ่งมากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
นายกฯ ฟุกชี้ว่า ถึงแม้อุตสาหกรรมการผลิตจะขยายตัว แต่ธุรกิจเหมืองแร่กลับหดตัว ขณะเดียวกัน ตัวเลขขาดดุลการค้าของเวียดนามยังคงสูงมากกว่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการนำเข้าเครื่องจักรจากต่างประเทศ
ผู้นำเวียดนามเร่งให้มีการใช้มาตรการอย่างเข้มข้นตั้งแต่ตอนนี้ถึงช่วงสิ้นปีเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตตามเป้า ปรับปรุงบรรยากาศในการทำธุรกิจและสร้างระบบบริหารจัดการที่เอื้อต่อการทำธุรกิจสมัยใหม่และสร้างสรรค์ โดยเขาได้สั่งงานอย่างเฉพาะเจาะจงกับกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ
นายกฯ ฟุกยังได้เรียกร้องให้ธนาคารกลางเวียดนามปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงินอย่างต่อเนื่อง ลดดอกเบี้ยเงินกู้และเพิ่มจำนวนสินเชื่อที่โดดเด่นให้มากขึ้นอย่างน้อย 20%
คาดการณ์ว่าจีดีพีของภาคเกษตรกรรมจะขยายตัว 3% ในปีนี้ ขณะที่การส่งออกของผลิตภัณฑ์จากฟาร์มและอาหารมีมูลค่า 33,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือมากกว่า
ทั้งนี้ นายกฯยังได้เรียกร้องให้กระทรวง ภาคส่วนต่างๆและเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นปฏิบัติงานอย่างเต็มที่เพื่อให้เป็นรัฐบาลที่โปร่งใส ปราศจากการทุจริตฉ้อฉล.
หมายเหตุ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ = 33.43 บาท / 4 ส.ค. 2560