มาเลเซียจับชายเวียดนามขนงาช้าง
เมื่อวันที่ 17 ก.ค ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่มาเลเซียระบุว่า ได้มีการจับกุมชายชาวเวียดนามและยึดของกลางเป็นงาช้าง มูลค่าเกือบ 70,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ยิ่งย้ำถึงบทบาทของประเทศที่กลายเป็นศูนย์กลางการลักลอบค้าสัตว์ป่า
Hamzah Sundang หัวหน้าศุลกากรระบุว่า ชายคนดังกล่าวถูกจับเมื่อวันที่ 15 ก.ค.ในท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ ขณะเดินทางเข้าประเทศมาเลเซีย หลังกลับจากอาดดิสอาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย
เจ้าหน้าที่หยุดชายผู้ต้องสงสัยว่าจะเกี่ยวโยงกับคดีลักลอบค้าสัตว์ โดยเขาปิดบังหน้าและทำท่าทีน่าสงสัยขณะอยู่ในเทอร์มินัลของสนามบิน
เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกระเป๋าเดินทางของชายคนดังกล่าวก็พบงาช้างถูกบรรจุอยู่ 10 ห่อ โดยมีน้ำหนักถึง 36 กก. ซึ่งถูกหั่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ซึ่งนักกิจกรรมระบุว่า งาช้างเหล่านี้มักถูกนำไปเป็นเครื่องประดับแฟชั่น
เจ้าหน้าที่ของมาเลเซียระบุว่า มูลค่าของงาช้างเหล่านี้สูงราว 70,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ชายคนนี้มีหน้าที่เดินทางไปยังเวียดนาม โดยงาช้างในเวียดนามนั้นเป็นที่ต้องการอย่างมาก ซึ่งส่วนมากจะนำมาใช้ในการตกแต่งหรือใช้ในการแพทย์แผนโบราณ
การจับกุมในครั้งนี้ชี้ให้เห็นชัดเจนมากขึ้นว่ามาเลเซียเป็นสถานที่สำหรับการขนย้ายและลักลอบสัตว์ป่าผิดกฎหมาย ในต้นเดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ศุลกากรของฮ่องกงตรวจพบงาช้างหนัก 7.2 ตันที่ส่งมาจากประเทศมาเลเซียเช่นกัน
การซื้อขายงาช้างทั่วโลก ถูกระบุว่าผิดกฎหมายมาตั้งแต่ปี 2532 หลังจำนวนช้างในแอฟริกาลดลงจากหลายล้านตัวในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 เหลือเพียง 600,000 ตัวในช่วงปี 80 เท่านั้น
โดยผู้ใดที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานนำเข้าสัตว์หายากหรือชิ้นส่วนของสัตว์หายากในมาเลเซีย จะต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีและถูกปรับ
Kanitha Krishnasamy ผู้นำภูมิภาคเพื่อตรวจสอบเครือข่ายค้าสัตว์ป่า กล่าวยกย่องการตรวจพบครั้งล่าสุดของเหล่าเจ้าหน้าที่มาเลเซีย ซึ่งมีการตามสืบจากการลักลอบค้านอแรดและตัวนิ่มเมื่อไม่นานมานี้
เธอระบุว่า การดำเนินการดังกล่าวนั้น “เป็นการโค่นขบวนการผู้ลักลอบค้าสัตว์ผิดกฏหมายจากการหาประโยชน์ในธุรกิจนี้”.
หมายเหตุ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ = 33.82 บาท /19 ก.ค.2560