ซิกแซกทำพาสปอร์ตในกัมพูชา
จากการปราบปรามแรงงานอพยพผิดกฎหมายอย่างเข้มงวดในมาเลเซียและไทย ทำให้ความต้องการหนังสือเดินทางของแรงงานชาวกัมพูชาเพิ่มขึ้นมากในช่วงสัปดาห์นี้ ทำให้หลายคนต้องเดินทางไปกรุงพนมเปญและต่อแถวเข้าคิวยาวเพื่อทำเอกสารให้ถูกต้องและครบถ้วน
อย่างไรก็ตาม บริษัทท่องเที่ยวหลายแห่งในกัมพูชาให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า พวกเขาสามารถจัดหาหนังสือเดินทางให้พลเมืองกัมพูชาในต่างประเทศได้ โดยมีราคาค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 600 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสูงกว่าของทางการกัมพูชาประมาณ 6 เท่า
พนักงานผู้ไม่เปิดเผยชื่อของบริษัทท่องเที่ยวแห่งหนึ่งให้ข้อมูลว่า บริษัทของเธอคิดค่าใช้จ่ายกับลูกค้าในประเทศสำหรับการทำหนังสือเดินทางแบบธรรมดา 115 ดอลลาร์สหรัฐฯ และ 235 ดอลลาร์สหรัฐฯสำหรับแบบด่วนพิเศษ ส่วนลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ บริษัทจะคิดค่าใช้จ่าย 590 ดอลลาร์สหรัฐฯ และโอนโดยตรงให้กับกองหนังสือเดินทางของกรมกงสุล 570 ดอลลาร์สหรัฐฯ
โดยเธอยกตัวอย่างกรณีนักศึกษาคนหนึ่งที่กำลังศึกษาต่อในแคนาดาและไม่สามารถกลับมาทำเอกสารได้ “พาสปอร์ตของเขาใกล้หมดอายุ เขามีสอบและกลับมาบ้านไม่ได้ เราก็เลยจัดการทำให้เขา”
อย่างไรก็ตาม นายสก โสพอน รองผู้อำนวยการกองหนังสือเดินทางปฏิเสธเรื่องนี้ “ผมไม่รู้เรื่องบริการพิเศษแบบนี้เลย ผมไม่รู้ว่าพวกเขาทำได้อย่างไร”
นายโสพอนยืนยันว่า ความเป็นไปได้ที่จะทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่เมื่ออยู่ในต่างประเทศคือ ต้องไปติดต่อที่สถานทูตกัมพูชาในประเทศนั้นๆ ซึ่งจะดำเนินการส่งเอกสารทางการทูตมาที่กระทรวงต่างประเทศ จากนั้นก็จะส่งคำร้องมาที่กระทรวงมหาดไทยเพื่อออกหนังสือเดินทางเล่มใหม่ให้
โดยกระบวนการนี้สำหรับแรงงานอพยพหรือนักศึกษาที่ยุ่งมากและไม่สามารถเดินทางกลับมาได้ และสำหรับหนังสือเดินทางประเภท 5 ปีเท่านั้น “ สำหรับแบบใหม่ที่มีอายุ 10 ปี เราต้องให้บุคคลนั้นเดินทางกลับมาทำ เนื่องจากเราต้องพิมพ์ลายนิ้วมือ”
ถึงแม้จะมีการปฏิเสธจากกองหนังสือเดินทาง แต่แรงงานอพยพชาวกัมพูชาในมาเลเซียหลายคนกล่าวกับสื่อพนมเปญโพสต์ว่า เมื่อช่วงต้นเดือนก.ค.พวกเขาต้องจ่ายให้นายหน้ามากกว่า 800 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อให้ได้พาสปอร์ตเล่มใหม่ และมีบริษัทหลายแห่งที่เสนอบริการจัดทำให้ในราคาใกล้เคียงกันนี้
เมือน โทลา จากกลุ่มสิทธิแรงงาน Central กล่าวว่า ค่าธรรมเนียมทำพาสปอร์ตที่สูงทำให้แรงงานอพยพต้องกลายเป็นแรงงานผิดกฎหมาย “ ถ้านี่เป็นเรื่องจริง ก็เป็นสาเหตุสำคัญที่บีบให้แรงงานอพยพต้องอยู่ในสถานะแรงงานเถื่อน ถ้าคุณไม่มีเงินถึง 600 ดอลลาร์สหรัฐฯ คุณก็ต้องอยู่อย่างผิดกฎหมาย”.