อินโดสั่งปิดแอปเชื่อ IS ใช้สื่อสาร
เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียได้ทำการบล็อคการใช้แอปพลิเคชั่น Telegram โดยระบุว่าในแอปพลิเคชั่นนี้มีพื้นที่แสดงความคิดเห็นที่ “ เต็มไปด้วยรุนแรงและเต็มไปด้วยโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มผู้ก่อการร้าย ”
นายพาเวล ดูรอฟ ผู้ก่อตั้งแอปพลิเคชั่นส่งข้อความ Telegram ระบุบนตัวแอปพลิเคชั่นว่า ทางบริษัท “ สื่อสารคลาดเคลื่อน ” กับเจ้าหน้าที่อินโดนีเซีย โดยนายดูรอฟ ไม่ได้ทราบเลยว่าทางรัฐบาลจะสั่งปิดช่องบางช่องในแอปพลิเคชั่นลง
นายดูรอฟ กล่าวในช่องของเขาบนแอปพลิเคชั่น “ Telegram มีจุดเด่นคือการเข้ารหัสที่แน่นหนาและความเป็นส่วนตัวที่สูงมาก แต่เราไม่ใช่เพื่อนของผู้ก่อการร้ายแน่นอน ” โดยเขาเสริมอีกว่า เขารู้สึกหัวเสียมากกับการแบนของรัฐบาลอินโดนีเซีย
เขาระบุว่า ตั้งแต่มีการแบนแอปพลิเคชั่น Telegram ก็ต้องทำการบล็อคช่องบางช่องที่ให้บริการบนแอปที่ถูกร้องเรียนโดยรัฐบาลอินโดนีเซียว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับการก่อการร้าย
ประธานาธิบดีโจโค วิโดโดแห่งอินโดนีเซียระบุเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ว่า โซเชียลมืเดียอื่นๆ จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากการจัดการแอปพลิเคชั่น Telegram ของรัฐบาล
Telegram เป็นโปรแกรมส่งข้อความที่เชื่อว่าเป็นที่นิยมในกลุ่ม IS โดยใช้แชทรูมที่มีผู้ใช้ทีละหลายร้อยราย รวมถึงใช้ห้องแชทที่เป็นส่วนตัวอีกด้วย
มีแอปพลิเคชั่นส่งข้อความมากมายอย่าง WhatsApp และ Telegram ที่ให้บริการส่งข้อความแบบเข้ารหัสจากปลายทางถึงปลายทาง ซึ่งหมายความว่าทางบริษัทจะไม่สามารถเห็นข้อความที่ผู้ใช้งานส่งถึงกันได้เลย
เจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยในหลาย ๆ ประเทศร้องเรียนเกี่ยวกับแอปพลิเคชั่นดังกล่าวที่สร้างพื้นที่สำหรับผู้ก่อการร้ายในการติดต่อสื่อสารกัน รัฐบาลในบางประเทศทั้ง ออสเตรเลีย และอังกฤษได้เรียกร้องให้บริษัทเทคโนโลยีเพิ่มหน่วยรักษาความปลอดภัยและป้องกันภัยคุกคามให้แน่นหนายิ่งขึ้น
ในวันที่ 16 ก.ค. นายรุดิอันดารา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของอินโดนีเซีย ไม่มีการตอบรับเกี่ยวกับข้อคิดเห็นที่เรียกร้องใด ๆ ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชั่น Telegram บางรายระบุว่าพวกเขาใช้ยังสามารถใช้งานแอปพลิเคชั่นในการส่งข้อความได้
เมื่อวันที่ 15 ก.ค. นายรุดิอันดาราให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ผ่านข้อความว่า แอปพลิเคชั่น Telegram ไม่ดำเนินการตามคำขอของรัฐบาลที่ให้ทำการลบเนื้อหา “ที่รุนแรง” ได้รวดเร็วพอ
เขาเสริมอีกว่า “ เราพยายามจะให้การสนับสนุนธุรกิจของพวกเขา แต่เราเองก็ต้องการความร่วมมือจากพวกเขาในการตอบสนองข้อเรียกร้องจากเรา อย่างเช่นการลบเนื้อหารุนแรงออกจากแอปพลิเคชั่น ”