เวียดนามเร่งดึงทุนสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน
เวียดนามเร่งระดมทุนทั้งจากต่างประเทศและในประเทศสร้างเครือข่ายระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานตามคำแนะนำของธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย ระบุต้องใช้งบประมาณจนถึงปี 2573 มากถึง 480,000 ล้่านดอลลาร์สหรัฐฯ
ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย หรือ เอดีบี ประเมินมูลค่าเงินทุนที่รัฐบาลเวียดนามจำเป็นต้องใช้สร้างโครงข่ายระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานในประเทศให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นด้วยงบประมาณมากราว 480,000 ล้านดอลาร์สหรัฐฯ ไปจนถึงช่วงปี 2573 ซึ่งโครงการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานไล่ตั้งแต่การสร้างถนนหลวงระยะทางราว 1,372 กม.จากภาคเหนือลงสู่ภาคใต้ด้วยงบประมาณ 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากโครงสร้างถนนหลวงในเวียดนามปัจจุบันยังอยู่ในขั้นมาตรฐานเพียง 20%
นอกจากนั้น เวียดนามยังจำเป็นต้องสร้างเครือข่ายขนส่งมวลชนจากกรุงฮานอยไปยังเมืองโฮจิมินต์ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยงบประมาณราว 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะเดียวกัน เวียดนามยังจำเป็นต้องสร้างสนามบินนครโฮจิมินต์แห่งใหม่นอกเมืองเขตชุมชน ซึ่งต้องใช้งบประมาณอีกราว 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อีกทั้งยังต้องสร้างท่าเรือใหม่และระบบบำบัดกำจัดน้ำเสียอย่างมีประสิทธิภาพด้วย
ขณะเดียวกัน เวียดนามยังจำเป็นต้องเร่งสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแก็สธรรมชาติอีก 2 แห่ง ขนาดกำลังไฟ 1500 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลมอีก 1 แห่ง ขนาด 800 เมกะวัตต์
แม้ว่าเศรษฐกิจเวียดนามมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละกว่า 6% และเวียดนามใช้เงินรายได้ของประเทศสร้างเครือข่ายระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานมากราว 5.7 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่ามากที่สุดในกลุ่มชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งยังมากกว่าอินเดีย แต่ยังน้อยกว่าจีน ซึ่งใช้งบประมาณพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 6.8% แต่งบประมาณของเวียดนามก็ยังไม่เพียงพอสร้างเครือข่ายระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานได้อย่างพอเพียงภายในช่วงเวลาถึงปี 2573 เวียดนามจึงจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลืองบประมาณลงทุนจากต่างชาติเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เวียดนามต้องเผชิญคือการสร้างความโปร่งใสน่าเชื่อถือให้แก่เหล่านักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องทุจริตคอรัปชั่น.