ดูเตอร์เตให้ทหารข่มขืนหญิงชี้แค่ล้อเล่น
นายโรดริโก ดูเตอร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ถูกสื่อโจมตีหลังจากพูดจาล้อเล่นเกี่ยวกับเรื่องการข่มขืน
โดยมีเชลซี คลินตัน ลูกสาวของอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตันของสหรัฐฯ นำทัพผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเรียกร้องความถูกต้องและกล่าวว่าการเล่นมุกตลกของเขามัน “น่ารังเกียจ”
นายดูเตอร์เตเข้าปราศรัยในค่ายทหารเมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเรียกขวัญกำลังใจให้เหล่าทหาร หลังจากที่เขาออกบังคับใช้กฎอัยการศึกทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ นายดูเตอร์เตกล่าวว่า เหล่าทหารสามารถข่มขืนผู้หญิงได้ถึง 3 ราย
นายดูเตอร์เตกล่าวว่า “ คุณจะข่มขืนผู้หญิง 3 คนก็ได้ ผมจะยอมติดคุกเพื่อคุณ และผมจะยอมรับว่าผมทำเองด้วย แต่ถ้าคุณข่มขืน 4 คน คุณโดนผมอัดเละแน่ ”
ประธานาธิบดีดูเตอร์เต มักใช้ถ้อยคำรุนแรงบ่อยครั้ง โดยในปีก่อน ระหว่างการรณรงค์เลือกตั้ง เขายังพูดติดตลกว่าอยากจะข่มขืนมิชชันนารีชาวออสเตรเลียคนสวย ที่ถูกฆาตกรรมในเรือนจำที่ฟิลิปปินส์ สร้างความขัดแย้งให้กับสังคมเป็นอย่างมาก
เชลซีและผู้คนมากมายบนโซเชียลมีเดีย ต่างรุมประณามผู้นำฟิลิปปินส์นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่ประธานาธิบดีดูเตอร์เตทำสงครามยาเสพติดที่คร่าชีวิตผู้คนไปหลายพันราย และนักสิทธิมนุษยชนยังกล่าวว่า สิ่งที่นายดูเตอร์เตทำ อาจกลายเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติก็เป็นได้
เชลซี คลินตัน ใช้ทวิตเตอร์ของเธอทวีตข้อความว่า “ มันไม่ตลกเลย ไม่มีวัน ”
โดยเธอทวีตต่อว่า “ เราต้องชี้ให้เห็นว่าดูเตอร์เตเป็นเหมือนทั้งอันธพาลและฆาตกร ที่ไม่เห็นค่าของสิทธิมนุษยชน และชี้ว่าการข่มขืนไม่ควรเป็นเรื่องตลก ”
นายฟีลิม ไคน์ รองผู้อำนวยการขององค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชนของเอเชียและนักกิจกรรมชาวฟิลิปปินส์ ต่างออกมาเตือนว่าข้อความที่นายดูเตอร์เตต้องการจะสื่อให้กับเหล่าทหารนั้นสร้างความเข้าใจผิด ทหารอาจลงมือทำร้ายร่างกายและใช้กำลังเนื่องจากกฏอัยการศึก
นายฟีลิมกล่าวว่า “ การยุยงให้มีการข่มขืนของประธานาธิบดีดูเตอร์เต สร้างความหวาดกลัวที่เลวร้ายที่สุดต่อนักกิจกรรมที่ต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนทั้งหลาย พวกเราต่างเกรงว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีดูเตอร์เตจะทำมากกว่าเพียงแค่เพิกเฉยต่อความรุนแรง เขาอาจจะสนับสนุนการกระทำเหล่านั้นเลยด้วยซ้ำ ”
ถึงอย่างไรก็ตาม โฆษกและผู้ช่วยของประธานาธิบดีดูเตอร์เตกลับออกมาอธิบายเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า นายดูเตอร์เตเพียงต้องการที่จะสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเหล่าทหารที่ต้องรับหน้าที่เท่านั้น แม้ว่าข้อความจะพยายามมุ่งไปยังประเด็นการปลุกใจทหาร แต่โฆษกของนายดูเตอร์เตก็ไม่ได้พูดถึงประเด็นเรื่องการข่มขืนแต่อย่างใด.