เมียนมาเจอภัยธรรมชาติหนักปีนี้

เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ทางการเมียนมาประกาศว่า มีผู้เสียชีวิต 82 รายและมีผู้อพยพพลัดถิ่นประมาณ 200,000 คนจากเหตุดินถล่มและน้ำท่วมในเมียนมาตั้งแต่ 25 มิ.ย. และมีผู้บาดเจ็บ 49 คน
โดยรัฐมอญเป็นพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบมากที่สุดในประเทศ จากข้อมูลของกระทรวงบรรเทาภัยพิบัติ
เหตุดินถล่มที่หมู่บ้าน Thaphyu Kone ในเขตเมืองปองของรัฐมอญ คร่าชีวิตประชาชนไปอย่างน้อย 73 รายและบาดเจ็บ 48 ราย
ทางการเสริมว่า มีการอพยพชาวบ้านประมาณ 4,000 คนในพื้นที่ใกล้เคียงที่เกิดภัยพิบัติเพื่อความปลอดภัย และทีมกู้ภัยฉุกเฉินสามารถหาร่างผู้เสียชีวิตได้ 69 ราย
โดยทางกระทรวงได้จัดหาข้าวสารและสิ่งของบรรเทาทุกข์อื่นๆให้กับครอบครัวของเหยื่อผู้เคราะหร้าย
เหตุดินถล่มครั้งนี้นับเป็นภัยธรรมชาติที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ปัจจุบันของรัฐมอญ
เนื่องจากมีฝนตกหนัก น้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างและดินถล่ม ทางกระทรวงจึงได้จัดสิ่งของบรรเทาทุกข์และความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมประมาณ 404.6 ล้านจ๊าด และได้รับเงินบริจาคมาประมาณ 105.7 ล้านจ๊าดเพื่อช่วยเหลือเหยื่อทั่วประเทศ
กระทรวงอุตุนิยมวิทยาและอุทกวิทยา (DMH) ออกประกาศเตือนถึงผลกระทบในวันที่ 10 ก.ค.สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในอิรวดี , บิลิน ,Laymyo และแม่น้ำชี่น-ดวี่น โดยฤดูมรสุมในปีนี้ทำให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศตั้งแต่ปลายเดือนมิ.ย.
DMH ยังได้เตือนถึงระดับน้ำในแม่น้ำสะโตง แม่น้ำธารวิน ว่าปริมาณน้ำสูงใกล้ถึงระดับอันตราย และคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกหนักในเนปิดอว์ รัฐคะฉิ่น รัฐกะเหรี่ยงและรัฐมอญในช่วงไม่กี่วันนี้
“ บริเวณชายฝั่งจะมีปริมาณฝนมากไปจนถึงปลายฤดูมรสุม” U Kyaw Moe Oo ผอ.บริหารของ DMH ระบุ
ศูนย์บรรเทาภัยน้ำท่วมในรัฐชิน ยะไข่ คะฉิ่น อิรวดี เขตซะไกง์และนครย่างกุ้งปิดตัวลงเนื่องจากระดับน้ำลดลงแล้ว แต่ยังคงมีศูนย์เปิดอยู่ในพะโค, กะเหรี่ยง, มอญ ,เขตตะนาวศรี , มะกเว และมัณฑะเลย์.