สิงคโปร์ขึ้นแท่นคุณภาพชีวิตดีสุดในเอเชีย
สิงคโปร์เป็นเมืองสำคัญในเอเชียที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุด นำหน้ากรุงโตเกียวในประเทศญี่ปุ่นและฮ่องกง ด้วยเหตุผลสำคัญคือโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพ
โดยสิงคโปร์ขยับขึ้นมาหนึ่งอันดับจากปีที่แล้วและรั้งอยู่ในอันดับที่ 25 ของเมืองสำคัญระดับโลกจากทั้งหมด 231 เมืองจากผลการประเมินของบริษัทที่ปรึกษา Mercer ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Marsh & McLennon Cos. ทั้งนี้ สำหรับเมืองในเอเชียด้วยกัน กรุงโตเกียวอยู่ที่ 47 และฮ่องกงอยู่ที่ 71 ทั้งสองเมืองได้อันดับต่ำกว่าเดิมเล็กน้อย
สิงคโปร์ได้อันดับดีที่สุดจากคุณภาพของโครงสร้างพื้นฐานของเมือง ทั้งไฟฟ้า น้ำดื่มและบริการโทรศัพท์ทาง Mercer ยังได้อ้างถึงระบบขนส่งสาธารณะ ความแออัดของการจราจร และจำนวนเที่ยวบินต่างประเทศด้วย
“ เมืองที่ได้คะแนนสูงจากโครงสร้างพื้นฐาน ยังรวมถึง การผสมผสานของความสะดวกสบายของสนามบินนานาชาติและในท้องถิ่น ความหลากหลายของโครงข่ายคมนาคม และการแก้ปัญหาด้วยนวัตกรรม เช่น สมาร์ทเทคโนโลยีและพลังงานทดแทน” Slagin Parakatil จาก Mercer ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดทำการสำรวจคุณภาพชีวิตให้ความเห็น
นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังได้คะแนนสูงในหัวข้อเสถียรภาพในประเทศ สินค้าบริโภคที่มีให้เลือกอย่างมากมาย คุณภาพและจำนวนที่พอเพียงของที่อยู่อาศัย และอัตราการเกิดภัยธรรมชาติต่ำ อ้างอิงจากผลวิจัย
ส่วนอันดับระดับโลก ซึ่งประเมินอยู่บนพื้นฐานที่รวบรวมในระหว่างเดิอนก.ย. – พ.ย.ในปีที่แล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นเมืองสำคัญในยุโรปตะวันตก โดยกรุงเวียนนาในออสเตรียอยู่ในอันดับ 1 และซูริกในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ตามมาเป็นที่ 2
โดยเมืองที่ไม่ได้อยู่ในทวีปยุโรปที่ติดเข้ามาใน 10 อันดับแรกคือ โอ๊กแลนด์ในประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งอยู่ในอันดับ 3 เมืองแวนคูเวอร์ในแคนาดาอยู่ที่ 5 และซิดนีย์ในออสเตรเลียอยู่ในอันดับ 10
ในเอเชีย คุณภาพชีวิตที่ดียังคงมีอยู่ในหลายเมืองใหญ่ โดยกรุงปักกิ่งของจีนอยู่ในอันดับ 119 ในขณะที่เซี่ยงไฮ้ทำคะแนนได้ดีกว่าและอยู่ที่ 102 ส่วนกวางโจวอยู่ที่ 121 สำหรับกรุงเทพฯ ตกลงมา 2 อันดับมาอยู่ที่ 131 และกรุงมะนิลาขยับขึ้นมาอยู่ที่ 135
ฮ่องกงถือเป็นเมืองใหญ่ในเอเชียที่ได้คะแนนโครงสร้างพื้นฐานรองลงมาคืออยู่ในอันดับ 6 ขณะที่ซิดนีย์ ในออสเตรเลียอยู่ที่ 8
“ เมืองใหญ่ทั่วแปซิฟิกยังมีคุณภาพชีวิตที่ดี ถึงแม้ปัจจัยบางประการ เช่น ความเชื่อมโยงของโครงข่ายสนามบิน และความแออัดของการจราจร จะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คะแนนในแง่โครงสร้างพื้นฐานของอีกหลายเมืองลดลง” อ้างอิงจากรายงานของ Mercer.