ลาวเสียหายจากคอร์รัปชั่น
เจ้าหน้าที่รัฐจากส่วนกลางและส่วนภูมิภาคของลาวจำนวนมากถูกตรวจสอบพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับการกระทำทุจริต ซึ่งส่งผลให้มีความเสียหายมากกับสถานะทางการคลังของประเทศ
โดยมีการเปิดเผยจากหน่วยงานสืบสวนของรัฐ (SIA) เป็นรายงานที่แสดงให้เห็นถึงผลการตรวจสอบในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ พบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐจากหน่วยงานภาคเกษตรกรรมในแขวงสาละวันที่เกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงเอกสารและทุจริตต่อภาครัฐเป็นมูลค่าถึง 11,300 ล้านกีบ ( 43.9 ล้านบาท) และ 8.3 ล้านบาท
ขณะเดียวกันยังมีการสืบทราบว่า เจ้าหน้าที่รัฐบางคนจากกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมโกงเงินงบประมาณไปมากกว่า 200 ล้านกีบ โดยประมาณ 5,800 ล้านกีบเป็นมูลค่าการทุจริตจากเจ้าหน้าที่ในกรมสรรพากรและศุลกากรในแขวงสะหวันนะเขต นอกจากนี้ ยังตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังฝ่ายภาษีมีการทุจริตถึง 6,900 ล้านกีบในปี 2559
นอกจากนี้ ในส่วนกระทรวงไปรษณีย์และการสื่อสาร ก็พบว่า มีการฉ้อฉลโกงกินอีกประมาณ 20,000 ล้านกีบในการอ่านรายงานการเปิดเผยผลการสืบสวนประจำปีเมื่อวันที่ 18 ม.ค.นายสินัย เมียงละวัน รองประธานของ SIA กล่าวว่า เจ้าหน้าที่รัฐหลายคนพัวพันในการกระทำทุจริตเช่น รับสินบน ใช้อำนาจในทางที่มิชอบ ปลอมแปลงเอกสาร และยักยอกโกงทรัพย์สินของรัฐ
อ้างอิงจากรายงาน มีเจ้าหน้าที่รัฐ 71 คนที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยคดีทุจริตในปี 2559 โดย 9 คนอยู่ในกระทรวงการคลัง 30 คนจากแขวงอุดมไซ 3 คนจากกระทรวงไปรษณีย์และการสื่อสาร 27 คนจากแขวงสะหวันนะเขต 1 คนจากแขวงสาละวัน และอีก 1 คนจากกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
โดยเจ้าหน้าที่ 25 คนถูกส่งต่อให้อัยการสอบสวน บางคนถูกศาลพิพากษาจากความเกี่ยวข้องในหลายกรณี
ทั้งนี้ ทางพรรคคอมมิวนิสต์และรัฐบาลแสดงท่าทีเข้มงวดจริงจังกับการทุจริตคอร์รัปชั่นในช่วงหลายปีมานี้โดยให้มีการแจ้งบัญชีทรัพย์สินทั้งในส่วนของคณะรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐเริ่มตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา
พรรคคอมมิวนิสต์และรัฐบาลให้ความสำคัญกับการสืบสวน เนื่องจากจะเป็นการคงเสถียรภาพทางการเมือง เศรษฐกิจ และความมั่นคงทางสังคมและวัฒนธรรม ขณะเดียวกันจะเป็นการกระชับอำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐและสมาชิกพรรค
โดยกระบวนการทั้งหมดจะช่วยในการสร้างพรรคให้มีความโปร่งใสและหนุนความแข็งแกร่งของโครงสร้างองค์กร เพื่อป้องกันการทุจริตในทุกรูปแบบทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน.