เขื่อนใหม่ของลาวถูกวิจารณ์หนัก
ข่าวที่ว่าลาวจะเดินหน้าสร้างเขื่อนปากแบง ซึ่งจะกลายเป็นเขื่อนหลักแห่งที่ 3 ของลาวริมแม่น้ำโขงตอนล่าง ได้ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่มองว่า ประเทศลุ่มน้ำโขงตอนล่างจะได้รับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการพัฒนาโครงการนี้
โดยลาวยื่นแผนต่อคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงเมื่อช่วงต้นเดือน พ.ย. โดยจะมีกระบวนการปรึกษาหารือล่วงหน้าเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งอนุญาตให้กัมพูชา ประเทศไทย และเวียดนามเข้ารับฟังและพูดคุยในเรื่องความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของเขื่อน โดยกระบวนการนี้เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงปี 2538 ระหว่าง 4 ประเทศเพื่อคงการพัฒนาที่ยั่งยืนให้กับลุ่มแม่น้ำโขง
อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์กล่าวว่า ประเทศลุ่มน้ำโขงตอนล่างไม่มีอำนาจอย่างแท้จริงที่จะระงับโครงการสร้างเขื่อนที่อาจทำลายวงจรชีวิตและแหล่งอาหาร “ ปัญหาคือกระบวนการตัดสินใจเกี่ยวกับเขื่อนและการพัฒนาควรจะครอบคลุมและมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ โดยในขณะนี้ การตัดสินใจยังอยู่ในช่วงของการประชุม ” อ้างอิงจากเพ็ญพร ดีเทศ ซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวของกลุ่มแม่น้ำโขงระหว่างประเทศ
โดยในขณะเดียวกัน ลาวได้เรื่มต้นก่อสร้างเขื่อนโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่ไซยะบุรีและเขื่อนดอนสะโฮงไปแล้ว แต่เสียงแสดงความกังวลจากกัมพูชาและเวียดนามเริ่มขยายวงกว้างขึ้น
นอกจากนี้ นายเชีย พัลลิกา ที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อมซึ่งศึกษาด้านโรงไฟฟ้าพลังน้ำ กล่าวว่า การประเมินผลกระทบจากแผนการสร้างเขื่อน 11 แห่งที่ยื่นเสนอให้ลาวยังไม่มีการปฏิบัติและจัดการตามนั้น
“ IECM ( ศูนย์การจัดการด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ ) แนะนำว่า ควรเลื่อนการสร้างเขื่อนออกไป 10 ปี เพื่อให้มีการประเมินด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างครอบคลุมครบถ้วน แต่พวกเขากำลังก่อสร้างเขื่อนโดยไม่มีการศึกษาให้ชัดเจนก่อน ”
นายจิต สัม อัต ผู้อำนวยการกองทุนสัตว์ป่าโลกสากลในกัมพูชา ( WWF) ให้ความเห็นว่า เห็นได้ชัดว่าโครงการนี้จะทำลายเส้นทางน้ำของกัมพูชาอย่างร้ายแรงและไม่อาจแก้ไขได้ภายหลัง
“ เขื่อนที่เพิ่มขึ้นอีกเขื่อนหนึ่งจะกลายเป็นหายนะ เพราะผู้คน 60 ล้านคน ล้วนแต่พึ่งพาการประมง ” นายอัตกล่าว โดย WWF ประเมินว่าการประมงในลุ่มแม่น้ำโขงมีมูลค่าประมาณ 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ซึ่งเงินส่วนนี้จะหายไปเมื่อเขื่อนที่ผลิตไฟฟ้าคร่าชีวิตสัตว์น้ำเป็นจำนวนมาก
ประชาชนหลายล้านคนซึ่งพึ่งพาการประมงจำเป็นต้องมีทางเลือกในการประกอบอาชีพอื่นๆ หากโครงการเขื่อนปากเบงสร้างเสร็จสมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม นายเสา โสเพียบ โฆษกกระทรวงสิ่งแวดล้อมยืนยันว่า คณะกรรมาธิการลุ่มน้ำโขงแห่งชาติของกัมพูชาจะทำงานใกล้ชิดกับฝ่ายลาวเพื่อชั่งน้ำหนักว่า มีผู้สนับสนุนและต่อต้านเขื่อนมากเพียงใด
“ เราจะปฏิบัติตามข้อตกลงในปี 2538 ซึ่งเป็นเรื่องที่ชัดเจนและเราจะยึดเป็นหลักการสำคัญ ” เขากล่าว.
หมายเหตุ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ = 35.63 บาท / 23 พ.ย. 2559