กลุ่มชาติพันธุ์รบกับกองทัพเมียนมา
รัฐบาลที่เพิ่งเข้ามาบริหารเมียนมาได้เพียง 8 เดือนต้องประสบกับวิกฤติครั้งใหม่เมื่อวันที่ 21 พ.ย. หลังจาก 4 กลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธโจมตีกองทัพทางตอนเหนือของเมียนมา สร้างความยุ่งยากให้กับนางอองซาน ซูจีในการนำสันติภาพมาสู่เมียนมา
มีรายงานผู้เสียชีวิต 8 รายและบาดเจ็บ 29 ราย เมื่อกลุ่มกบฎยิงถล่มทั้งกองทัพ เจ้าหน้าที่ตำรวจและศูนย์กลางธุรกิจใกล้กับฮับการค้าสำคัญตรงพรมแดนเมียนมาที่ติดกับจีนเมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมาอ้างอิงจากฝ่ายรัฐบาล
โดยจีนสั่งให้กองทัพเตรียมพร้อมระวังภัยในระดับสูงสุดและให้ช่วยจัดหาที่พักให้กับประชาชนที่หนีข้ามพรมแดนมาจากเมืองที่มีการสู้รบคือเมือง Muse และ Kutkai ที่อยู่ในรัฐฉานทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมียนมา จีนเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องพยายามมุ่งหาความสงบและมีความยับยั้งชั่งใจ
การสู้รบที่ทวีความรุนแรงโดยทันทีเกิดจากการที่รัฐบาลมีความขัดแย้งในรัฐยะไข่ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมียนมา จนทำให้ชาวโรฮิงจาซึ่งเป็นมุสลิมชนกลุ่มน้อยต้องลี้ภัยไปบังคลาเทศ กลายเป็นความท้าทายครั้งใหม่ของนางซูจีที่เคยได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพและชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายในปีที่แล้ว โดยในช่วงการรณรงค์หาเสียง นางซูจีได้สัญญากับผู้สนับสนุนถึงการรวมผู้คนในชาติให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
ทั้งนี้ หนึ่งในกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธที่มีกองกำลังที่ทรงประสิทธิภาพคือ กองทัพเพื่ออิสรภาพคะฉิ่น (KIA) ได้เข้าร่วมกับอีก 3 กลุ่มชาติพันธุ์ที่เล็กกว่า ในการเผชิญหน้ากับกองทัพเมียนมาตั้งแต่เกิดการปะทะกันที่พรมแดนในปี 2558
ทาง 3 กลุ่มชาติพันธุ์รายงานว่า ได้เข้าร่วมกับกองกำลัง KIA เพื่อโจมตีกองทัพรัฐบาลตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยแถลงการณ์ของ 4 กลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธคือ “ ทางกองทัพเมียนมากำลังทำลายกลุ่มชาติพันธุ์ทั้งทางการเมืองและทางกองทัพ เพราะรัฐบาลไม่มีความตั้งใจจริงที่จะแก้ปัญหาทางการเมืองของเมียนมา โดยผ่านกระบวนการเจรจาเพื่อสันติภาพ ”
นายฮลา หม่อง เช หนึ่งในคณะทำงานเจรจาเพื่อสันติภาพของรัฐบาลให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ความรุนแรงครั้งใหม่อาจส่งผลกระทบให้กระบวนการเจรจาเพื่อสันติภาพล่าช้าออกไป
ในปี 2558 ทางจีนแสดงท่าทีโกรธเกรี้ยวเนื่องจากมีชาวจีนเสียชีวิต 5 รายจากการสู้รบที่ข้ามเข้าไปในพื้นที่ของจีน
โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนรายงานว่า กระสุนจากการสู้รบครั้งล่าสุดนี้ทำให้ชาวจีนคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บและจีนต้องการประท้วง
“ กองทัพของจีนมีการเฝ้าระวังในระดับสูงและจะใช้มาตรการทางทหารที่จำเป็นเพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประเทศ รวมทั้งปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวจีนที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่ตามแนวพรมแดนที่ติดกับเมียนมา ” อ้างอิงจากแถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศของจีน.