มาเลเซียประท้วงให้นายกฯ ลาออก
ประชาชนชาวมาเลเซียหลายพันคนสวมเสื้อสีเหลืองเพื่อมารวมตัวกันชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์เพื่อยื่นข้อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคลาออก
โดยผู้ชุมนุมต้องการให้นายกฯ นาจิบถูกจับกุมและตั้งข้อหาจากผลประโยชน์ทับซ้อนเรื่องเงินจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในกองทุน 1MDB ที่มีข่าวอื้อฉาวเรื่องความไม่โปร่งใสมานาน
นายกรัฐมนตรีนาจิบกล่าวปฏิเสธว่าไม่ได้ทำความผิดใดๆ และเขาไม่รู้สึกตื่นตระหนกหรือหวาดกลัวประชาชนที่มาชุมนุมประท้วงต่อต้านเขาในครั้งนี้แต่อย่างใด
จากคำแถลงในบล็อกส่วนตัว นายกฯ นาจิบเรียกกลุ่ม Bersih ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านเขาว่า ‘ พวกหลอกลวง ’ โดยเขากล่าวหาว่ากลุ่มผู้ประท้วงเป็นเครื่องมือของพรรคการเมืองฝ่ายค้านที่พยายามจะทำทุกวิถีทางให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งต้องหลุดออกจากตำแหน่ง
แต่นายชาห์รุล อามัน ชาอะรี รองประธานกลุ่ม Bersih ซึ่งเป็นผู้ชักนำให้ประชาชนมาชุมนุมกันที่มัสยิดแห่งชาติปฏิเสธคำกล่าวหาของนายกฯนาจิบโดยกล่าวว่า “ เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อทำให้ประเทศเสียหาย เรารักประเทศนี้ เราไม่ได้มาเพื่อโค่นล้มรัฐบาล เรามาเพื่อทำให้ประเทศแข็งแกร่งขึ้น ”
การชุมนุมประท้วงครั้งที่ 2 ของกลุ่ม Bersih ซึ่งมีความหมายว่า ‘สะอาด’ ในภาษามาเลย์เป็นการเรียกร้องให้นายกฯ นาจิบลาออกจากตำแหน่งใน 15 เดือนและทำให้มีความตึงเครียดเพิ่มขึ้นระหว่างกลุ่มเสื้อเหลืองและกลุ่มเสื้อแดงซึ่งสนับสนุนรัฐบาล
โดยบรรดาผู้นำของทั้งสองกลุ่ม รวมทั้งนักเคลื่อนไหวกลุ่ม Bersih ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ซึ่งความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถูกกลุ่มสิทธิมนุษยชน Amnesty ประณามอย่างรุนแรงในทันที มีการเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวโดยเร็วที่สุด โดยกล่าวว่า พวกเขาเป็นนักโทษทางความคิด
ทั้งนี้ การจับกุมกลุ่มผู้นำในการประท้วงไม่อาจหยุดยั้งการประท้วงได้ โดยผู้ชุมนุมประท้วงยังคงตะโกนว่า “ รักษาประชาธิปไตย ” และ “ Bersih, Bersih ”
“ เราต้องการรัฐบาลที่โปร่งใส เราต้องการการเลือกตั้งที่ยุติธรรม ” นายดีเรค หว่อง วัย 38 ปี ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์กล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพี
ทั้งนี้ มีรายงานว่ากลุ่มเสื้อแดงมารวมตัวกันเพื่อประท้วงต่อต้านกลุ่ม Bersih ด้วยเช่นกัน.