อินโดนีเซียใช้งบปีหน้าเข้มงวด
รัฐบาลจะเริ่มประสบกับความท้าทายในการคงสภาพการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีหน้า หลังจากผ่านการลงมติเห็นชอบจากสภาในเรื่องงบประมาณภาครัฐในปี 2560
ประธานาธิบดีโจโค วิโดโดได้อธิบายภาพรวมของการใช้งบประมาณในปีหน้าว่า จะเป็นไปตามสภาพความเป็นจริงและเชื่อถือได้ เป็นภารกิจที่จะบริหารงบประมาณเพื่อกำจัดความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำและสร้างงานให้มากขึ้น
นางศรี มุลยานิ อินทราวาติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อลงมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณปี 2560 ว่า งบประมาณในปีหน้าจะถูกนำมาใช้เพื่อสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจทามกลางภาวะซบเซาทั่วโลกและความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจในจีน รวมถึงการค้าระหว่างประเทศที่ชะลอตัว
“ สมมติฐานของเศรษฐกิจมหภาคในงบประมาณสะท้อนให้เห้นถึงความเป็นจริงของสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกและในประเทศ ”
โดยในงบประมาณปี 2560 รัฐบาลคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะเติบโต 5.1% ต่ำกว่าที่เคยตั้งเป้าไว้ก่อนหน้านี้คือ 5.3%
นางศรี มุลยานิ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งที่ 2 เมื่อเดือนก.ค. แถลงว่า เธอจะไม่ซ้ำรอยเดิมความผิดพลาดของงบประมาณปีนี้ ซึ่งกดดันให้รัฐบาลต้องตัดลดงบประมาณครั้งใหญ่ถึง 2 รอบเนื่องจากขาดรายได้จากการจัดเก็บภาษีที่สูงถึง 219 ล้านล้านรูเปียห์
อินโดนีเซียซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังค่อยๆ ฟื้นตัวจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจเพียง 4.79% ในปี 2558 ซึ่งจัดว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในรอบ 6 ปี ด้วยการคาดการณ์ล่วงหน้าว่า จะมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 5.3% ในงบประมาณภาครัฐปี 2559 นี้
อย่างไรก็ตาม หลังจากรัฐบาลตัดลดงบประมาณไปถึง 2 ครั้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ตั้งเป้าตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจว่าจะอยู่ระหว่าง 5 – 5.1% ในปีนี้ เนื่องจากผลของการปรับลดค่าใช้จ่ายส่งผลกระทบในวงกว้างต่อเศรษฐกิจโดยภาพรวม
ถึงแม้จะต้องยอมรับความเป็นจริง แต่รัฐบาลก็คาดการณ์ถึงรายได้ของรัฐว่าจะสูงถึง 1.75 พันล้านล้านรูเปียห์ สูงกว่าที่เคยยื่นเสนอไว้ในแผนก่อนหน้านี้คือ 1.73 พันล้านล้านรูเปียห์ ขณะเดียวกัน ทางกระทรวงตั้งเป้ารายจ่ายงบประมาณไว้ที่ 2.08 พันล้านล้านรูเปียห์ สูงกว่าที่เคยตั้งเป้าไว้ก่อนหน้านี้คือ 2.07 พันล้านล้านรูเปียห์
อ้างอิงจากการคำนวณ อินโดนีเซียจะขาดดุลงบประมาณสูงถึง 330.2 ล้านล้านรูเปียห์ในปีหน้า หรือเท่ากับ 2.41% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี
หมายเหตุ 1,000 รูเปียห์ = 2.84 บาท / 31 ต.ค. 2559