มาเลเซียเน้นรายได้เพิ่มในงบประมาณปีหน้า

เป้าหมายสำคัญที่สุดของงบประมาณปี 2560 คือการเพิ่มรายได้สุทธิให้กับประชาชนชาวมาเลเซีย อ้างอิงจากถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคเมื่อวันที่ 20 ต.ค. หนึ่งวันก่อนที่เขาจะส่งแผนงบประมาณให้กับรัฐสภา
โดยในการแถลงข่าว นายกรัฐมนตรีนาจิบกล่าวว่า เนื่องจากค่าครองชีพมีการปรับเพิ่มสูงขึ้น ทำให้แผนการใช้จ่ายงบประมาณของปี 2560 จะมุ่งเน้นไปที่การจัดหาที่อยู่อาศัยในราคาที่ประชาชนซื้อได้และกองทุนเพื่อการดูแลรักษา มาตรการที่สำคัญต่อการศึกษา และการจัดหาบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพ
นายกฯ นาจิบกล่าวเสริมว่า นอกจากนี้ รัฐบาลจะมุ่งเน้นที่โครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาบริการขนส่งสาธารณะและสาธารณสุข งบประมาณส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลาง ทรัพยากรมนุษย์และการฝึกอบรมทักษะ
นักวิเคราะห์หลายคนให้ความเห็นว่า เงินงบประมาณจะถูกใช้เพื่อการเลือกตั้งในอนาคต แต่ผู้นำมาเลเซียกล่าวว่า นี่เป็นงบประมาณที่เป็นเหมือนคำมั่นสัญญา
“ นี่เป็นงบประมาณที่เป็นคำมั่นของรัฐบาล รัฐบาลอื่นอาจจะทำเพื่อหวังผลทางการเมืองในระยะสั้นแต่รัฐบาลนี้จะไม่ทำเช่นนั้น ” นายกฯ นาจิบกล่าว
“ รัฐบาลให้คำมั่นว่าจะส่งเสริมและสนับสนุนให้พื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวและแข็งแกร่งทั้งเป้าหมายในการขาดดุลงบประมาณ แผ่ขยายกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และดูแลระบบการเงินในระยะยาว ”
“ เราสัญญาว่าจะบริหารงานอย่างรอบคอบและสร้างสรรค์ในการใช้จ่ายเงินงบประมาณ เพื่อให้ประชาชนมีความสุขสบาย และทางรัฐบาลจะบริหารงบประมาณให้ครอบคลุมเพื่อเติมเต็มสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ” อ้างอิงจากถ้อยแถลงของเขา
นายกรัฐมนตรีนาจิบ ซึ่งรั้งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังด้วยกล่าวว่า เศรษฐกิจของมาเลเซียมีแนวโน้มที่จะขยายตัวอยู่ระหว่าง 4 – 4.5% ในขณะที่ตัวเลขคาดการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศที่พัฒนาแล้วอยู่ที่ 1.6% เท่านั้น
นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า มาเลเซียต้องติดอยู่กับเป้าขาดดุลงบประมาณที่ 3.1% เนื่องจากการเลื่อนไหลอาจกระตุ้นให้มีการลดการจัดอันดับลงและทำร้ายค่าเงินของมาเลเซียเอง
“ เราต้องแน่ใจว่า ต้องมีการหยุดการรั่วไหลที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ” นายซาคาเรียห์ อับดุล ราชิด ผู้อำนวยการบริหารสถาบันวิจัยเศรษฐกิจแห่งมาเลเซียให้ความเห็น
“ งบประมาณของปีหน้าควรจะมุ่งเน้นไปที่ความสามารถในการแข่งขัน ” นายลี เฮง กุย ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมชาวจีนในมาเลเซียกล่าว
“ เราต้องสร้างกำแพงปกป้องให้เพียงพอเพื่อให้เศรษฐกิจมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และให้แน่ใจว่าเงินงบประมาณรวมจะถูกบริหารไปในทิศทางที่เหมาะสม ถึงแม้มาเลเซียจะมีการขาดดุลงบประมาณมาตลอด 19 ปีที่ผ่านมาก็ตาม ” เขากล่าว.