เจรจาขึ้นค่าแรงในกัมพูชา
สภาที่ปรึกษาด้านแรงงานของรัฐบาลจะมีการพิจารณาข้อเสนอขึ้นค่าแรงเป็น 3 ตัวเลขโดยอยู่ระหว่าง 147-171 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ก่อนที่จะมีการกำหนดค่าแรงขั้นต่ำของภาคสิ่งทอในปีหน้า หลังจากการประชุม 3 ฝ่ายเมื่อวันที่ 28 ก.ย.ยังไม่มีมติเป็นเอกฉันท์
หลังจากมีการประชุมและเจรจามานานหลายเดือน จะมีการนำเสนอตัวเลขที่แก้ไขแล้วจากสหภาพแรงงานคือ 171 ดอลลาร์สหรัฐฯ และตัวแทนนายจ้างคือ 147 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยไม่เปลี่ยนไปจากตัวเลขเดิมที่กระทรวงแรงงานเสนอมากนักคือ 148.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ
โดยในการเจรจา ทางสหภาพตั้งต้นผลักดันให้ค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 179.60 ดอลลาร์สหรัฐฯ และปรับลดลงมาเป็น 177.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว หลังจากตัวแทนนายจ้างปรับขึ้นข้อเสนอเป็น 146.37 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากตัวเลขเริ่มต้นอยู่ที่ 144.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ถึงแม้การเจรจานาน 3 เดือนยังไม่มีมติเป็นเอกฉันท์และยังมีถึง 3 ตัวเลขให้ตัดสินใจ แต่กระบวนการในการเจรจามีความสำคัญและเป็นประโยชน์ อ้างอิงจากถ้อยแถลงของนายเฮง ซูร์ โฆษกกระทรวง
ขณะที่ทางสหภาพและนายจ้างรู้สึกผ่อนคลายกับข้อเสนอสุดท้าย ยังมีหลายคนที่อยากรู้เกี่ยวกับผลที่จะออกมาในวันที่ 29 ก.ย. นายชวน มมทล ประธานสภาสหภาพแรงงานกัมพูชาที่สนับสนุนรัฐบาลกล่าวว่า เขายังมองในแง่ดีว่า จะมีการปรับขึ้นค่าแรงไปเกือบถึง 160 ดอลลาร์สหรัฐฯ
“ ผมคิดว่า ทางคณะกรรมการที่ปรึกษาแรงงานจะไม่ขึ้นให้เกิน 10% ซึ่งหมายความว่าค่าแรงจะปรับขึ้นเป็น 150 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือมากกว่านั้น แต่น้อยกว่า 160 ดอลลาร์สหรัฐฯ ” เขากล่าว
เขายังได้แสดงความหวังว่า นายกรัฐมนตรีฮุนเซนอาจเข้ามาแทรกแซงอย่างที่เคยทำในรอบ 2 ปีที่ผ่านมาและอาจสั่งให้เพิ่มค่าแรงให้แรงงานอีก 5 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคน
“ ในกัมพูชา การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นเรื่องการเมือง ” นายเอ็นจอย โฮ ตัวแทนนายจ้างซึ่งเป็นรองประธานสมาคมผู้ผลิตสิ่งทอกัมพูชาให้ความเห็นในเรื่องนี่
นอกจากนี้ เขายังอ้างว่า โรงงานมากกว่า 150 แห่งต้องปิดตัวลงในปีนี้ เพราะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากค่าแรงที่ปรับขึ้นอย่างรวดเร็วใน 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งตัวเลขนี้ใกล้เคียงกับในรายงานขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ที่เผยแพร่ในเดือนนี้ว่า มีโรงงาน 122 แห่งที่ ‘ปิดทำการ’ แต่ในข้อมูลไม่ได้เจาะจงว่าการปิดโรงงานเกิดขึ้นในปีนี้
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานเมื่อวันที่ 28 ก.ย.ว่า ยอดส่งออกรองเท้าและเสื้อผ้าของกัมพูชาเพิ่มขึ้น 8.3% ใน 7 เดือนแรกของปี 2559 มีมูลค่าถึง 3,880 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 ถึงแม้โรงงานจะอ้างว่า คำสั่งซื้อกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอุตสาหกรรมและหัตถกรรมยังไม่มีการตอบรับจากการเรียกร้องให้เปิดเผยข้อมูลและสถิติของภาครัฐ
หมายเหตุ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ = 34.74 บาท / 29 ก.ย. 2559
