ข้าว “เมด อิน สิงคโปร์” พร้อมเสริฟแล้ว
สิงคโปร์สบช่องหลังพัฒนาข้าวสายพันธุ์ “หอมมะลิ” ดั้งเดิมมายาวนานถึง 8 ปี พร้อมเปิดให้ชาวสิงคโปร์ลิ้มลองแล้วกิโลกรัมละ 177 บาท ภายใต้ชื่อ “เทมาเสก ไรซ์”
นสพ.เดอะ สเตรท ไทม์สของสิงคโปร์รายงาน เมื่อกลางเดือนก.ย.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ สิงคโปร์กำลังได้ลิ้มลองรสชาติของข้าวสายพันธุ์ใหม่ ชื่อ เทมาเสก ไรซ์ (Temasek Rice) เป็นข้าวพันธุ์แรกและหนึ่งเดียวที่ผลิตคิดค้นพันธุ์ในสิงคโปร์ และเป็นพันธุ์ใหม่ที่ได้จากการเพาะข้ามสายพันธุ์ข้าวหลายชนิดด้วยกัน ทำให้มีคุณสมบัติพิเศษทนทานต่อน้ำท่วม สามารถอยู่ในสภาวะเหมือนกบจำศีลได้นานถึง 2 อาทิตย์หากถูกน้ำท่วม และหลังผ่านการวิจัยและทดลองปลูกมากว่า 8 ปี ตอนนี้เทมาเสก ไรซ์ พร้อมให้คนสิงคโปร์ได้ลองชิมแล้วโดยเริ่มวางขายที่ซูปเปอร์มาร์เก็ต เมดี-ยา ที่ย่านเหลียง คอร์ท เมื่อเดือนที่ผ่านมาแล้ว
ดร.หยิน จงเฉา นักวิทยาศาสตร์ ผู้รับผิดชอบการโครงการวิจัยแห่งศูนย์ทดลองทางวิทยาศาสตร์ชีวภาพของเทมาเสก ผู้คิดค้นข้าวเทมาเสก การันตีข้าวคุณภาพดี รสชาตินุ่มอร่อยหรืออาจอร่อยกว่าเมื่อเทียบกับข้าวกล้อง (brown rice) พันธุ์อื่นๆ เป็นข้าวพันธุ์ใหม่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทนทานสภาพอากาศแห้งแล้งและชื้นจัดที่เกิดขึ้นนานกว่าปกติ รับมือการถูกเชื้อราและแบคทีเรียทำลายกัดกินได้ดีและยังให้ผลผลิตต่อไร่สูง จึงหวังว่าข้าวเทมาเสกจะก่อประโยชน์ทั้งกับชาวนาและผู้บริโภคในระยะยาว “ ชาวนาทำงานหนักแต่ได้รายได้ต่ำ ดังนั้นพวกเราจึงต้องการสร้างข้าวดีๆ ที่ให้ผลผลิตที่คงที่พร้อมๆ กับคุณภาพที่ดี เพื่อว่าจะขายได้รายสูง ขณะที่ในส่วนของผู้บริโภค ข้าวที่อยู่รอดในเงื่อนไขสภาพอากาศเลวร้ายได้จะเป็นตัวเลือกทำให้อุปทานอาหารมีเสถียรภาพมากขึ้น ” ดร.หยิน กล่าว
และด้วยความที่ข้าวเป็นอาหารจานหลักของประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งโลกที่มี 7,400 ล้านคน อีกทั้งผลการศึกษาหลายฉบับยังพบด้วยว่าความต้องการในตลาดโลกจะเพิ่มขึ้นอีกเป็น 30% ภายในปี 2025 ดร.หยินก็หวังว่าข้าวเทมาเสกจะเป็นแหล่งทรัพยากรข้าวที่เชื่อถือและพึ่งพาได้
โดยข้าวเทมาเสก ไรซ์ เกิดจากการเพาะข้ามสายพันธุ์ระหว่างข้าวหอมมะลิที่ปลูกกันในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนกับข้าวอื่นๆ อีก 5 พันธุ์จากภูมิภาคเอเชียใต้ซึ่งดร.หยิน เรียกว่า เป็นผู้บริจาค (donors) กระบวนการเพื่อให้ได้ข้าวพันธุ์ใหม่เอี่ยมที่ชื่อเทมาเสก ไรซ์ นี้ก็ใช้วิธีการถ่ายเรณู หรือผสมเกสรแบบดั้งเดิม เพื่อให้ละอองเกสรหรือเรณูจากต้นพันธุ์ข้าวผู้บริจาคและส่งต่อไปที่ต้นข้าวหอมพันธุ์ดั้งเดิม ข้าวเทมาเสกให้ผลิตเฉลี่ย 6 ตันต่อพื้นที่เพาะปลูก 1 เฮกแตร์ หรือมากกว่าข้าวหอมดั้งเดิมที่ไม่ผ่านการดัดแปลงพันธุ์เกือบ 4 เท่า ลำต้นข้าวสั้น จึงทนทานกว่าหรือไม่ล้มง่ายเหมือนข้าวทั่วไปเมื่อโดนลมพัดแรงรวมทั้งคุณสมบัติพิเศษอีกหนึ่งอย่างที่พูดไว้แล้วคืออยู่ใต้น้ำได้นานกว่า 2 อาทิตย์ ดร.หยิน ยังกำลังมองหาบริษัทข้าวมาเป็นหุ้นส่วนเพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวเทมาเสกซึ่งตอนนี้ปลูกอยู่ที่เมืองทาสิกมาลายาของอินโดนีเซียและปลูกแค่ปริมาณไม่มาก หากได้หุ้นส่วนมาช่วยเพิ่มผลิตก็จะขยายตลาดวางจำหน่ายเพิ่มเติม
สำหรับราคาขาย ถุงขนาด 1 กก. ขายอยู่ที่ 6.95 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 177 บาท) และ 7.45 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 190 บาท) ซึ่งถือว่าสูงกว่าข้าวแบรนด์ทั่วไป ศาสตราจารย์วิเลียม เชง แห่งคณะเคมีและวิศวกรรมการแพทย์ชีวภาพแห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยางของสิงคโปร์ ระบุว่า ข้าวเทมาเสกจะช่วยแก้ปัญหาท้าทายเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เช่น ภาวะแห้งแล้งหรือน้ำท่วมซ้ำซากและกินเวลานานขึ้นในกลุ่มประเทศผลิตอาหารป้อนโลกหลายประเทศได้.