ตกงานเพิ่มขึ้นในสิงคโปร์
จากสภาพเศรษฐกิจที่อ่อนแรง ทำให้ตัวเลขการว่างงานของสิงคโปร์เพิ่มสูงขึ้นในไตรมาส 2 เนื่องจากมีจำนวนแรงงานล้นตลาด อ้างอิงจากการรายงานของกระทรวงทรัพยากรมนุษย์ (MOM)
โดยอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นจาก 1.9% ในเดือนมี.ค.ขึ้นมาอยู่ที่ 2.1% ในเดือนมิ.ย.อ้างอิงจากการเผยแพร่รายงานของกระทรวงในตลาดแรงงานช่วงครึ่งปีแรก เมื่อเทียบกับจำนวนประชากร ตัวเลขการว่างงานเพิ่มขึ้นจาก 2.6% เป็น 3.1% ในไตรมาสแรก และเพิ่มจาก 2.7% เป็น 3 % ทั้งนี้ อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นในกลุ่มประชากรอายุ 30 ปีขึ้นไป และโดยเฉพาะในกลุ่มประชากรที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 5 แล้ว โดยตัวเลขการว่างงานของผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา
นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนมิ.ย.2555 ที่มีผู้มองหางานทำมากกว่างานที่เปิดรับในช่วงไตรมาส 2 อ้างอิงจากรายงาน
โดยจำนวนตำแหน่งงานว่างลดลงจาก 50,000 ตำแหน่งลงมาอยู่ที่ 49,400 งานในเดือนมิ.ย.ซึ่งมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนมี.ค.2558 เมื่อเทียบกับจำนวนคนว่างงานที่เพิ่มขึ้น สัดส่วนงานที่เปิดรับลดลงมาอยู่ที่ 93 งานต่อคนมองหางาน 100 คน เมื่อเทียบกับ 103 งานต่อคนหางาน 100 คนในเดือนมี.ค.
มีปริมาณแรงงานโดยรวมถึง 4,800 คนที่ต้องตกงานในช่วงไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นจากเดิม 4,710 คนในไตรมาสแรก เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นไตรมาส 2 ที่มีจำนวนคนตกงานมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งเคยพุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดถึง 5,980 คน
นอกจากนี้ มีจำนวนแรงงานที่ถูกปลดออกจากงานมากถึง 9,510 คนในช่วงครึ่งปีแรกนี้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดจากรายงานของกระทรวงนับตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา
ทางกระทรวงรายงานว่า เมื่ออ้างอิงจากรายงานของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มี 45% ของประชากรที่ถูกเลย์ออฟในไตรมาสแรกและมีการจ้างงานทดแทนในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา.