อินโดฯ วอนให้มองดับไฟป่าดีกว่าวิจารณ์
นางสิติ นูรบายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมและป่าไม้ของอินโดนีเซีย กล่าวเมื่อวันที่ 28 ส.ค.ว่า ทางอินโดนีเซียทำงานกันอย่างไม่ได้หยุดเพิ่อแก้ไขปัญหาไฟที่กำลังเผาผลาญป่าอยู่ในขณะนี้
และวอนให้นานาชาติมองเห็นถึงความพยายามที่จะดับไฟของอินโดฯ มากกว่าที่จะเอาแต่วิพากษ์วิจารณ์แต่เพียงอย่างเดียว
โดยรัฐมนตรีกล่าวว่า “ เราเคารพการตำหนิติเตียนจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่เราไม่ได้ดำเนินการที่จะแก้ปัญหาไฟป่าเพราะแรงกดดันจากประเทศอื่นๆ ”
ดร.สิติยังได้กล่าวเสริมว่า รัฐบาลทำตามหน้าที่อย่างเต็มความสามารถเพื่อประชาชนของประเทศ
“ คนนอกไม่ควรแสดงความคิดเห็นที่ไม่จำเป็น แต่ควรเฝ้าดูความพยายามที่จะดำเนินการอย่างเป็นระบบและจริงจังของรัฐบาลอินโดนีเซียมากกว่า ” อ้างอิงจากถ้อยแถลงของเธอ
โดยดร.สิติกล่าวว่า กระทรวงของเธอเปิดกว้างให้กับทุกวิถีทางที่จะต่อสู้กับปัญหาไฟป่า รวมถึงโทษทางปกครองและกระบวนการทางกฎหมาย มีประมาณ 30 บริษัทที่กำลังมีการพิจารณาโทษทางปกครอง เนื่องจากการเผาป่าในปีที่แล้ว และหากพบว่ามีความผิดจริง จะได้รับการตักเตือนอย่างรุนแรงและยกเลิกใบอนุญาตสัมปทานชั่วคราว โดยมีประมาณเกือบ 10 บริษัทที่อยู่ในขั้นตอนของกฎหมาย แต่เธอไม่ได้เอ่ยชื่อบริษัทเหล่านั้น
รัฐมนตรีกล่าวเสริมว่า เป็นการบูรณาการระหว่างทีมปฏิบัติการภาคพื้นดินที่ทำงานอย่างไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยเพื่อดับไฟให้ได้ และกระบวนการทางกฎหมายที่จะนำผู้ลงมือจุดไฟเผาป่ามาลงโทษให้ได้
“ ปัจจุบันนี้ ทางกระทรวงสิ่งแวดล้อมได้ประกาศพักการให้ใบอนุญาตชั่วคราว ทั้งในด้านการจัดการป่าไม้โรงงานผลิตปาล์มน้ำมัน และการจัดการป่าพรุ นี่เป็นขั้นตอนที่จะขจัดปัญหา และในขณะเดียวกันก็ช่วยจัดการทรัพยากรธรรมชาติด้วยปัจจัยด้านสิ่งแวดล่อมอย่างมีระบบ ”
โดยเธอชี้ให้เห็นถึงความพยายามของรัฐบาลอินโดนีเซียในช่วงเวลาที่ผ่านมา ที่เห็นผลเป็นรูปธรรมได้อย่างชัดเจนคือ ความหนาแน่นของหมอกควันที่เกิดจากไฟป่าในปีนี้ โดยจากการสำรวจดาวเทียมแสดงให้เห็นถึงพื้นที่ที่มีไฟป่าลดลง จาก 8,247 จุดในเดือนม.ค. – ส.ค. ปี 2558 ลดลงเหลือเพียง 2,356 จุดในช่วงเวลาเดียวกันของปีนี้ ซึ่งคิดเป็นการลดลงถึง 75% อ้างอิงจากถ้อยแถลง
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้เธอจะให้ข้อมูลว่า จำนวนพื้นที่ที่ถูกเผาลดลงเกือบ 70-90% แต่เธอก็เตือนให้เจ้าหน้าที่ของประเทศยังคงตื่นตัวและเฝ้าระวังสิ่งที่เธอเรียกว่า “ ไฟป่าที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงทางฤดูกาล” และฤดูแห้งแล้งที่กำลังใกล้เข้ามา.