ปราบยาเสพติดเด็ดขาดในฟิลิปปินส์
ผู้บัญชาการตำรวจฟิลิปปินส์รายงานว่า มีการสังหารผู้ที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดไปมากกว่า 1,900 รายจากการปราบปรามอย่างเข้มข้นของภาครัฐในช่วง 7 สัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยผู้บัญชาการตำรวจโรนัลด์ เดลา โรซากล่าวในการสอบสวนของวุฒิสภา เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นมาก นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต้เข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของฟิลิปปินส์
เขากล่าวว่า ในจำนวนนี้ เป็นการวิสามัญของเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 750 ราย แต่ในรายอื่นๆ กำลังอยู่ในระหว่างการสืบสวน
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีดูเตอร์เต้ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย เพราะมีแคมเปญการหาเสียงที่เน้นในเรื่องการปราบปรามยาเสพติดอย่างรุนแรงเฉียบขาด
โดยก่อนหน้านี้ เขาเคยกระตุ้นให้พลเมืองยิงและสังหารพ่อค้ายาเสพติดที่ขัดขืนการจับกุม และย้ำว่าการปลิดชีพผู้ต้องสงสัยในคดียาเสพติดเป็นเรื่องถูกกฎหมาย ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมองว่าเป็นการป้องกันตัว
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีดูเตอร์เต้ถูกขู่ว่าจะถูกโดดเดี่ยวจากสหประชาชาติ หลังจากทางยูเอ็นมองว่าการประกาศสงครามยาเสพติดของเขาถือเป็นการก่ออาชญากรรมร้ายแรงภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ
สหรัฐอเมริกาแสดงท่าทีกังวลที่มีการสังหารผู้ที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ที่นำโดยวุฒิสมาชิกเลลา เดอ ลิมา ซึ่งได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอธิบายถึงจำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ ยังมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากญาติของผู้เสียชีวิตด้วย
โดยผู้บัญชาการตำรวจเดลา โรซากล่าวชี้แจงในการสืบสวนเมื่อวันที่ 23 ส.ค.ว่า มีจำนวนผู้เสียชีวิตถึง 1,916 รายในระหว่างงานปราบปราม และมี 756 รายที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เขาให้สัมภาษณ์สื่อว่า ผู้เสียชีวิตไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดทั้งหมด มีประมาณ 40 รายที่เป็นคดีปล้นทรัพย์หรือทะเลาะวิวาทส่วนตัว อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่า ไม่มีการให้นโยบายแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจในการอนุญาตให้สังหารผู้เสพยาได้ โดยเน้นว่า ตำรวจไม่ใช่คนขายเนื้อ
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจยังได้เสริมว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 300 นายที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด และเตือนว่าจะมีการตั้งข้อหาและปลดออกจากตำแหน่งทันทีที่พบว่าได้กระทำความผิดจริง
ทั้งนี้ มีผู้ใช้ยาและพวกติดยาเร่ร่อนได้เข้ามาให้ความร่วมมือกับโครงการเกือบ 700,000 รายนับตั้งแต่ฟิลิปปินส์มีการประกาศใช้การปราบปรามที่เด็ดขาดนี้.