นิรโทษกรรมภาษีอินโดฯ ไม่คืบ
หลังจากรัฐบาลอินโดนีเซียประกาศใช้กฎหมายนิรโทษกรรมภาษีได้เกือบ 2 เดือน กลับสามารถบรรลุเป้าหมายได้ไม่ถึง 1%
ทั้งๆ ที่ประธานาธิบดีโจโค วิโดโดคาดการณ์ว่าจะสามารถจัดเก็บภาษีได้อย่างเป็นกอบเป็นกำในช่วงเริ่มต้นของการบังคับใช้กฎหมาย
จากยอดค่าปรับที่เก็บได้ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ส.ค.อยู่ที่ 947,000 ล้านรูเปียห์ ซึ่งห่างไกลจากเป้าหมายของรัฐบาลคือ 165 ล้านล้านรูเปียห์อยู่มาก ในขณะที่มูลค่าเงินที่กลับคืนมาในประเทศอยู่ที่ 1.51 ล้านล้านรูเปียห์ ทั้งที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ถึง 100 ล้านล้านรูเปียห์
นายคริส แคนเทอร์ หนึ่งในคณะกรรมการบอร์ดที่ปรึกษาของหอการค้าและอุตสาหกรรมอินโดนีเซียให้ความเห็นว่า “ นี่เป็นเดือนส.ค.แล้ว เรามีเวลาแค่เดือนเดียวที่จะชื่นชมกับอัตราค่าปรับที่ถูกที่สุดของโครงการนิรโทษกรรมภาษีนี้ ”
ทั้งนี้ ผู้ที่เข้าร่วมในโครงการนิรโทษกรรมภาษีนี้จะต้องจ่ายค่าปรับในอัตรา 2- 4% ของมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดที่ยื่นแสดงภายในเดือนก.ย. และจะต้องจ่ายค่าปรับเป็น 3 – 6% ในเดือนต.ค.- ธ.ค. และจ่ายเพิ่มขึ้นในอัตรา 5-10% ในเดือนม.ค.-มี.ค. ปี 2560
โดยบรรดาผู้ที่ปฏิบัติตามกฎหมายนิรโทษกรรมภาษีใหม่นี้ รวมถึงการเคลื่อนย้ายเงินทุนเข้ามา พากันยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินในวันที่ 18 ก.ค. และ 8 ส.ค. หลายสัปดาห์หลังจากมีการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้
นายศรี มุลยานิ อินทราวาตี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเข้าใจถึงความกังวลของนักธุรกิจเหล่านี้ โดยเขากล่าวว่า “ ผู้จ่ายภาษีรายใหญ่ต้องการเวลาและการจัดการที่ถุกต้องตามทางกฎหมาย โดยเฉพาะทรัพย์สินที่อยู่ต่างประเทศ ”
รัฐบาลคาดการณ์ว่าจะมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีเพิ่มเติมจากการนิรโทษกรรมภาษีสูงถึง 16.5 ล้านล้านรูเปียห์ แต่รัฐมนตรีคลังย้ำว่า รายได้จากการเก็บภาษีทั้งหมดมูลค่า 153 ล้านล้านรูเปียห์ในปีงบประมาณ 2559 จะไม่ได้มาจากการนิรโทษกรรมภาษีเพียงอย่างเดียว เนื่องจากยังมีรายได้จากแหล่งอื่นที่มีศักยภาพอีก
มีความพยายามล่าสุดที่จะดึงดูดให้ผู้จ่ายภาษีเข้าร่วมในโครงการคือการจัดตั้งนิติบุคคลเฉพาะกิจ (SPVs) ขึ้น โดยคาดการณ์ว่าบุคคล หรือผู้ประกอบการธุรกิจสามารถดำเนินการผ่านทาง SPVs ในต่างประเทศ เพื่อยื่นบัญชีทรัพย์สิน และส่งคืนเงินกลับประเทศผ่าน SPVs
ถึงแม้รายละเอียดในเรื่องนี้จะยังไม่ชัดเจน แต่รัฐมนตรีคลังกล่าวว่า คาดการณ์ว่านักธุรกิจจะใช้ช่องทางSPVs มาที่อินโดนีเซีย เนื่องจากรัฐบาลตั้งเป้าให้เป็นที่ปลอดภัยสำหรับการถือครองทรัพย์สิน
ทั้งนี้ หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Samuel Asset Management เตือนว่า รัฐบาลเหลือเวลาอีกไม่มากนักจึงควรเร่งดำเนินการ รวมถึงช่องทาง SPVs ด้วย
หมายเหตุ 1,000 รูเปียห์ = 2.76 บาท / 23 ส.ค.2559
