การค้าเมียนมาวูบ
ปริมาณการค้าโดยรวมของเมียนมาลดลงในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว รวมถึงการขาดดุลการค้าที่ลดลง ขณะที่แผนของรัฐบาลที่จะส่งเสริมการส่งออกต้องเผชิญกับแรงต้านทางเศรษฐกิจที่สำคัญ
โดยแรงต้าน (ที่ผู้นำอุตสาหกรรมชี่้ให้เห็น อาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัว และเพิ่มตัวเลขขาดดุลในระยะสั้น) คือราคาน้ำมันและก๊าซที่ตกต่ำ การห้ามส่งออกไม้ ความพยายามที่จะลดการส่งออกหยกดิบ (เพื่อส่งเสริมมูลค่าการแปรรูป) และการขาดแคลนผลผลิตทางการเกษตร จากสภาพอากาศที่เลวร้ายโดยเฉพาะ การเกิดน้ำท่วม
ปริมาณการค้าระหว่างเดือนเม.ย.ถึงสิ้นเดือนก.ค.มีมูลค่่าอยู่ที่ 8,071 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเป็นยอดส่งออก 3,275 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเป็นยอดนำเข้า 4,790 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้มีตัวเลขขาดดุลอยู่ที่ 2,150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ขณะที่รัฐบาลเมียนมายังมีท่าทีกังวลเรื่องการขาดดุลทางการค้าอย่างต่อเนื่อง นายทัน เมียนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ประกาศแผนการส่งเสริมการส่งออกให้มีปริมาณเพิ่มเป็น 3 เท่าในช่วงเวลาที่รัฐบาลปัจจุบันบริหารประเทศอยู่ภายในปี 2563
เพื่อให้บรรลุตามเป้า เขากล่าวว่า รัฐบาลต้องมุ่งไปที่ภาคเกษตรกรรม ผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลาง และการส่งออกใหม่ (นำสินค้าเข้ามาในเมียนมา และนำไปขายใหม่ให้ประเทศอื่นอีกครั้ง)
นายมาด ทิน ออง ประธานเขตเศรษฐกิจ Hlaing Tharyar ในย่างกุ้ง ให้ความเห็นว่า สภาพอากาศที่คาดเดาได้ยากในเมียนมาอาจสั่นคลอนความพยายามที่จะส่งเสริมผลผลิตทางเกษตรกรรม โดยชี้ให้เห็นถึงสภาพน้ำท่วมในปี 2558 ซึ่งเกิดซ้ำๆ ในช่วงฤดูฝน
โดยเขาเชื่อว่าสภาพอากาศที่เลวร้ายจะเป็นสาเหตุของการขาดดุลการค้าอยู่ต่อไป นอกจากนี้ เขายังเอ่ยถึงราคาน้ำมันและก๊าซ การสั่งห้ามส่งออกไม้ และความพยายามที่จะลดการส่งออกหยกดิบ ว่าล้วนเป็นสาเหตุของการขาดดุลการค้าของเมียนมา
ที่ผ่านมา น้ำมันและก๊าซ หยก และผลผลิตทางการเกษตรเป็นสินค้าส่งออกหลักของเมียนมา ขณะที่การนำเข้าสินค้าที่สำคัญคือเครื่องใช้ในบ้านและวัตถุดิบในอุตสาหกรรม ซึ่งช่วยเพิ่มระดับการลงทุนจากต่างประเทศ
เขากล่าวว่า “ปริมาณการส่งออกจะลดลงอย่างแน่นอนในปีนี้ ผมคาดว่า มูลค่าการขาดดุลการค้าจะสูงขึ้นกว่าในปีที่แล้ว ”
รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของเมียนมา คาดการณ์ว่าปริมาณการค้าในปีงบประมาณนี้ ที่สิ้นสุดเดือนมี.ค.2560 จะมีมูลค่าอยู่ที่ 32,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่อาจน้อยกว่านี้ หากมีเหตุน้ำท่วมในเมียนมา คาดการณ์ว่ามูลค่าการนำเข้าจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากการลงทุนจากต่างประเทศยังคงเข้ามาในเมียนมาอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2558 มูลค่าการค้าทั้งหมดอยู่ที่ 26,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยตัวเลขขาดดุลที่ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
หมายเหตุ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ = 34.82 บาท/15 ส.ค.2559