ท่องเที่ยวเมียนมาบูม
เมียนมาตั้งเป้านักท่องเที่ยวสูงถึง 7.5 ล้านคนในปี 2562 อ้างอิงจากข้อมูลของภาครัฐเมื่อวันที่ 2 ส.ค.
เนื่องจากการเปิดประเทศของรัฐบาลทหารในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ ช่วยทำให้เมียนมากลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวฮอตฮิต
ในอดีต การเดินทางไปท่องเที่ยวเมียนมาซึ่งเป็นประเทศปิด ดูจะเป็นเรื่องยาก เนื่องจากมีการปกครองโดยกองทัพอย่างเข้มข้น และขาดสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งไฟฟ้าและการคมนาคมที่ยากลำบาก
แต่ในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถไปเยือนเมียนมาได้อย่างเสรีหลังการเปิดประเทศอย่างเป็นทางการในปี 2554 ด้วยคนดังระดับโลกอย่างป๊อบสตาร์ บียอนเซ่และเจย์ ซี ที่ช่วยหนุนให้รู้จักกันอย่างแพร่หลายถึงประเทศใหม่ที่น่าไปเยือน
โดยในปีนี้ เมียนมามีจำนวนนักท่องเที่ยวเป็นไปตามคาดการณ์สูงถึง 5.5 ล้านคน มากกว่าในปี 2558 เกือบ 1 ล้านคน อ้างอิงจากข้อมูลของนายตินท์ เวิ้น ผู้อำนวยการทั่วไปของกระทรวงโรงแรมและการท่องเที่ยว
เขากล่าวนอกรอบจากการประชุมการท่องเที่ยวในนครย่างกุ้งว่า “ เราหวังว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นเป็น 7.5 ล้านคนภายใน 3 ปีต่อจากนี้ ”
“ เราจะพยายามจัดหาสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าดึงดูดใจแห่งใหม่ให้นักท่องเที่ยว และจะสนับสนุนการท่องเที่ยวในวิถีชุมชน” เขากล่าวถึงความมุ่งมั่นที่จะนำรายได้มาสู่ประเทศที่จัดว่ายากจนติดอันดับของเอเชียซึ่งตรงกันข้ามกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทย ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ ที่มีตัวเลขนักท่องเที่ยวมาเยือนสูงถึง 30 ล้านคนในปี 2558
ความสนใจในวัฒนธรรมดั้งเดิมและธรรมชาติที่สวยงามของเมียนมา ช่วยหนุนให้การท่องเที่ยวเติบโตขยายตัวได้ในไม่กี่ปีมานี้ และยังได้อานิสงส์จากการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรจากนานาชาติและการที่นางอองซาน ซูจีชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายในปีที่แล้วก็เป็นการช่วยย้ำถึงการเป็นประเทศที่มีประชาธิปไตยให้เด่นชัดขึ้น
อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวเมียนมายังมีความท้าทายรออยู่อีกมาก เช่น ห้องพักในโรงแรมหลายแห่งมีราคาสูงเกินไปและไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากลในการรองรับนักท่องเที่ยวที่เปี่ยมด้วยมิตรภาพจากประเทศไทย มาเลเซีย และเวียดนาม
นอกจากนี้ ยังมีหลายกรณีที่ความประพฤติของนักท่องเที่ยวขัดแย้งกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของเมียนมาเช่น นักท่องเที่ยวชาวสเปนคนหนึ่งที่สักรูปพระพุทธเจ้าบนขาของเขา ทำให้ทางการต้องมีการคุมเข้มมากขึ้นกับนักท่องเที่ยวที่อาจทำลายภาพลักษณ์ของประเทศที่เคร่งครัดในพุทธศาสนาอย่างเมียนมา
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวในเมียนมาคาดหวังที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วให้ได้เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับงานที่จะมีให้ทำกันตลอดทั้งปี.