อินโดฯ ผ่านกฎหมายนิรโทษกรรมภาษี
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของอินโดนีเซียได้มีมติผ่านร่างกฎหมายนิรโทษกรรมทางภาษี
โดยมีวัตถุประสงค์ในการช่วยให้เศรษฐีผู้มีทรัพย์สินจำนวนมากในต่างประเทศกลับกลายเป็นผู้มีประวัติขาวสะอาดสำหรับกรมสรรพากร
โดยกฎหมายใหม่นี้ยังช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลางด้วยการจัดเก็บภาษีในอัตราที่ต่ำลงด้วย
ทั้งนี้ ภายใต้กฎหมายใหม่ อัตราภาษีที่จัดเก็บจะมีอัตราอยู่ที่ 2% -10% ขึ้นอยู่กับว่าสามารถแจ้งบัญชีทรัพย์สินส่วนบุคคลได้เร็วขนาดไหนและมีการนำทรัพย์สินกลับเข้ามาในอินโดนีเซียหรือไม่ โดยอัตราภาษีนี้สูงกว่า 1% -6% ในกฎหมายฉบับร่างเมื่อตอนต้นปีนี้
ตัวอย่างเช่น ผู้เสียภาษีที่แจ้งบัญชีทรัพย์สินและนำกลับเข้ามาในอินโดนีเซียภายใน 3 เดือนหลังจากกฎหมายฉบับนี้ผ่านสภาจะต้องเสียภาษีในอัตราต่ำที่สุดคือ 2% โดยอัตราภาษีจะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 3% หลังจาก 3 เดือน และขยับเพิ่มขึ้นเป็น 5% หลังจาก 6 เดือน และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับผู้ที่แจ้งบัญชีทรัพย์สินแต่ไม่ได้นำทรัพย์สินกลับเข้ามาในประเทศจะต้องเสียภาษีในอัตรา 4% และขยับขึ้้นเป็น 6% หลังจาก 3 เดือนและปรับเพิ่มเป็น 10% ในอีก 3 เดือนต่อไป
ทั้งนี้ ธุรกิจขนาดเล็กที่มีรายได้ต่อปีถึง 4,800 ล้านรูเปียห์ จะต้องจ่ายภาษีในอัตรา 0.5% ถ้าแจ้งบัญชีทรัพย์สินไว้ต่ำกว่า 10,000 ล้านรูเปียห์ สำหรับผู้ที่แจ้งบัญชีทรัพย์สินไว้สูงกว่า 10,000 ล้านรูเปียห์จะต้องจ่ายภาษีในอัตรา 2%
กฎหมายใหม่นี้ถูกผลักดันเข้ามาในสภาหลังจากมีการประชุมครบองค์คณะ ที่นำโดยโฆษกของสภาคือนายอาเดโคมารูดิน โดยใช้เวลาพิจารณาอย่างรอบคอบมานานหลายเดือน
ปัจจุบัน อัตราภาษีบุคคลธรรมดาในอินโดนีเซียอยู่ที่ 5%-30% ขณะที่ผู้ประกอบธุรกิจต้องจ่ายภาษีในอัตราที่สูงกว่า 25%
จากจำนวนประชากรทั้งประเทศประมาณ 250 ล้านคน มีผู้มีรายชื่อเป็นผู้เสียภาษีอยู่ในระบบของสรรพากรเพียง 27 ล้านคนเท่านั้นและมีประมาณ 1 ล้านคนที่มีแฟ้มรายงานการเสียภาษี
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า ทรัพย์สินมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของเศรษฐีชาวอินโดนีเซียถูกซุกซ่อนอยู่ในสิงคโปร์ อ้างอิงจากข้อมูลของนายธนาคารเอกชนและผู้จัดการด้านทรัพย์สิน
รัฐบาลอินโดนีเซียหวังว่า กฎหมายนิรโทษกรรมทางภาษีฉบับนี้จะช่วยให้ประเทศมีรายรับเพิ่มขึ้น 165 ล้านล้านรูเปียห์ หรือเพิ่มขึ้นถึง 11%
โดยนางสาวเดยิ ตัน นักเศรษฐศาสตร์ประจำอาเซียนของบริษัทมอร์แกน สแตนลีย์กล่าวว่า “ผู้บริหารธนาคารกลางของอินโดนีเซียและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคาดการณ์ว่า กฎหมายนิรโทษกรรมทางภาษีนี้จะช่วยหนุนให้รายรับของประเทศเพิ่มขึ้น 0.4% – 1.3% ของจีดีพี”
เพื่อให้สามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านในด้านอัตราการจัดเก็บภาษีได้ อินโดนีเซียมีแผนที่จะลดภาษีนิติบุคคลลงเหลือ 20% ในปีนี้ จากอัตราเดิม 25% อ้างอิงจากถ้อยแถลงของนายบัมบัง บรอดโจเนโกโร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในเดือนเม.ย.ของปีนี้.
หมายเหตุ 1,000 รูเปียห์ = 2.80 บาท 29 มิ.ย.2559