ส่งออกสิงคโปร์ดีขึ้น
ยอดส่งออกสิงคโปร์เพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค. จากยอดขายยาและทองคำ เนื่องจากผู้ค้าต้องการหาที่พึ่งที่ปลอดภัยจากตลาดที่ผันผวน
แต่นักวิเคราะห์เตือนว่ายอดส่งออกที่เพิ่มขึ้นไม่ได้บ่งบอกถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในวงกว้าง
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของสิงคโปร์รายงานว่า การส่งออกสินค้าที่ไม่ใช่น้ำมันเพิ่มขึ้นถึง 11.6% จากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วจากชิ้นส่วนอาคารสำเร็จรูป เวชภัณฑ์และทองคำ
ขณะที่สิงคโปร์ไม่มีตลาดภายในประเทศขนาดใหญ่ที่จะรองรับทองคำ แต่กลับเป็นผู้ค้าที่มีบทบาทสำคัญในภูมิภาค
ความผันผวนในตลาดทั่วโลก จากการที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัวและราคาแร่ทองคำตกต่ำ กลับผลักดันให้ราคาขายทองคำสูงขึ้นถึง 20% ในปีที่แล้ว
นายซง เซง วุน นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารซีไอเอ็มบีมองว่า “ยอดส่งออกของไต้หวันและอินเดียที่เพิ่มขึ้นมีส่วนช่วยหนุนการค้าทองคำ อุปสงค์ทั่วโลกสำหรับทองคำเพิ่มสูงเนื่องจากนักลงทุนมองหาที่พึ่งทีปลอดภัยจากตลาดหุ้นและโภคภัณฑ์ ”
นอกจากนี้ การส่งออกทองคำมีผลประกอบการในการส่งออกที่ยอดเยี่ยมจากยอดที่เพิ่มขึ้นถึง 18.5% นับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2558
กรมส่งเสริมการค้าของสิงคโปร์รายงานว่า สินค้าที่ไม่ใช่อิเล็คโทรนิคส์ เวชภัณฑ์ และปิโตรเคมีขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 19% ตรงข้ามกับเดือนเม.ย.ที่ลดลงถึง 8.1%
นอกจากนี้ยังมีอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากสหรัฐอเมริกาและไต้หวัน ซึ่งทั้งสองประเทศเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของสิงคโปร์
โดยยอดส่งออกไปสหรัฐฯ ขยายตัวขึ้นถึง 9.1% ขณะที่ไต้หวันเติบโตก้าวกระโดดถึง 11.2% ในเดือนพ.ค. แต่นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า ตัวเลขในเดือนพ.ค.ทีปรับเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ บ่งชี้เพียงเล็กน้อยถึงวงรอบของเศรษฐกิจทั่วโลกในอนาคต
นายซง นักวิเคราะห์จากธนาคารซีไอเอ็มบีกล่าวว่า ตัวเลขที่ปรับเพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ มาจากการส่งออกเวชภัณฑ์ ขณะที่ไต้หวันนำเข้าชิ้นส่วนอาคารสำเร็จรูปปริมาณมากในครั้งเดียว
อย่างไรก็ตาม มีอุปสงค์ที่ลดลงจากสหภาพยุโรปและจีน โดยการส่งออกไปสหภาพยุโรปปรับลดลงเหลือ 14.0% จากตัวเลขเดิม 20.6% ในเดือนเม.ย. ขณะที่ยอดส่งออกไปจีนลดลงถึง 10.1% แย่กว่าตัวเลขที่ลดลง 7.4% ในเดือนเม.ย.
ทั้งนี้ รัฐบาลสิงคโปร์ตั้งเป้าตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจไว้ที่ 1.0 – 3.0 % ในปีนี้ แต่ภาคเอกชนคาดการณ์ว่าจะต่ำกว่านี้ ในปี 2558 สิงคโปร์มีตัวเลขการขยายตัวทางเสรษฐกิจอยู่ที่ 2%.