เมียนมาสั่งห้ามฉายหนัง “สิ้นแสงฉาน”
ภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับเจ้าชาย “จ่าแสง” ที่ครองเมืองสีป้อองค์สุดท้าย ที่อยู่ทางเหนือของรัฐฉาน หายสาบสูญหลังจากที่ถูกรัฐบาลเมียนมาจับตัวไป เมื่อปี 2505
ฝ่ายจัดนิทรรศกาลภาพยนตร์ด้านสิทธิมนุษยชนในเมียนมาร์กล่าวหากองทัพเมียนมาห้ามฉายหนังฉาวเกี่ยวกับรัฐฉาน เพราะกระทบภาพลักษณ์ทหาร
สำนักข่าวบีบีซี รายงานเมื่อวันที่15มิ.ย.ว่า ฝ่ายจัดงานนิทรรศกาลภาพยนตร์ด้านสิทธิมนุษยชนในนครย่างกุ้งของเมียนมา ระบุว่า ภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์เรื่อง “Twilight Over Burma: My Life as a Shan Princess” หรือในชื่อไทยว่า “สิ้นแสงฉาน” ถูกกองเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ของเมียนมา ห้ามฉายเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา เพราะหนังมีเนื้อหาทำลายภาพลักษณ์กองทัพ และบ่งบอกว่ารัฐบาลชุดใหม่ของเมียนมาเป็นแค่ไวน์ใหม่ในขวดเก่า ซึ่งเป็นการกล่าวถึงการริดรอนอำนาจของรัฐบาลเมียนมาชุดใหม่ นำโดย นางออง ซาน ซูจี ที่ยังคงมีอยู่และทหารยังมีมีอิทธิพลในการเมืองของเมียนมา
ขณะที่ รองผู้อำนวยการกองเซ็นเซอร์ภาพยนตร์เมียนมา ดอว์ ธิดา ทิน ระบุว่าหนังเรื่องทไวไลท์ โอเวอร์ฯ ถูกห้ามฉายเพราะมีเนื้อหากระทบความเป็นเอกภาพของชาติรวมทั้งกระทบเสถียรภาพของประเทศและประชาชน รวมถึงกระบวนการสร้างสันติภาพกับกองกำลังกลุ่มกบฏที่กำลังดำเนินอยู่ หนังเรื่องสิ้นแสงฉาน สร้างจากเรื่องจริงของเจ้าชายจ่าแสง เจ้าฟ้าองค์สุดท้ายของเมืองสีป้อ ทางเหนือรัฐฉานที่พบรักกับสาวออสเตรเลีย
ขณะไปศึกษาเกี่ยวกับเหมืองแร่ที่สหรัฐฯ ก่อนกลับมาครองเมืองสีป้อ แต่หลังกองทัพเมียนมาสมัยนั้นนำโดยนายพลเนวิน เข้ายึดอำนาจการปกครองในเมียนมา เมื่อปี พ.ศ.2505 เจ้าจ่าแสงถูกจับและหายตัวสาบสูญกระทั่งทุกวันนี้ และถือเป็นการสิ้นสุด เจ้าฟ้าสีป้อด้วย
สำหรับกองเซ็นเซอร์สื่อสิ่งพิมพ์ถูกยกเลิกไปตามแผนปฏิรูปประชาธิปไตยใน 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่กองเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ยังคงอยู่และอยู่ในส่วนกระทรวงสารสนเทศ แต่มีอิสระในการตัดสินใจไม่ขึ้นกับรัฐมนตรีเจ้ากระทรวง.