สิงคโปร์ผลิตน้ำพอใช้
สิงคโปร์ประสบความสำเร็จในการพึ่งพาตัวเองในการผลิตน้ำได้เพียงพอต่อความต้องการและกำลังเพิ่มความสามารถในการผลิตเพื่อรองรับอุปสงค์ที่จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าใน 45 ปีข้างหน้า
สิงคโปร์ซึ่งทำสัญญาซื้อน้ำจากประเทศเพื่อนบ้านคือมาเลเซียในปริมาณมากกว่าครึ่งจากความต้องการใช้น้ำประจำวัน 400 – 420 ล้านแกลลอน สามารถผลิตน้ำได้ครอบคลุมอุปสงค์ ถึงแม้ภัยแล้งจะลดอุปทานน้ำจากมาเลเซีย อ้างอิงจากคำให้สัมภาษณ์ของนายมาซากอส ซุลคิฟลิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมและแหล่งน้ำในสัปดาห์ที่ผ่านมา
นายมาซากอสกล่าวว่า จากพื้นที่กักเก็บน้ำที่ขยายเพิ่มขึ้น การรีไซเคิลน้ำและกลั่นน้ำทะเลช่วยให้สิงคโปร์สามารถรับมือกับภาวะขาดแคลนน้ำจากมาเลเซียได้ สิงคโปร์มีความต้องการสร้างอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้นและโรงงานที่จะผลิตน้ำให้ได้ประมาณ 800 ล้านแกลลอนต่อวัน ภายในปี 2604 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ข้อตกลงซื้อน้ำ 250 ล้านแกลลอนต่อวันจากมาเลเซียหมดอายุลง
รัฐมนตรีมาซากอสกล่าวว่า “เพราะสิงคโปร์มีตวามสามารถในการผลิตน้ำที่เพียงพอ เราจึงรับมือกับภาวะขาดแคลนน้ำได้ จะเห็นว่าน้ำในอ่างเก็บน้ำของเราเต็มความจุตลอด ห่างไกลจากคำว่าปัญหาการขาดแคลนน้ำมาก” ขณะที่บางพื้นที่ของมาเลเซียต้องมีการจัดสรรปันส่วนน้ำใช้กันเมื่อเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ รัฐยะโฮร์ทางภาคใต้ของมาเลเซีย ซึ่งเป็นพื้นที่จัดส่งน้ำดิบให้สิงคโปร์ภายใต้ข้อตกลงทวิภาคีประสบปัญหาภัยแล้งจนการประปาในท้องถิ่นต้องร้องขอน้ำดื่มจากสิงคโปร์เมื่อตอนต้นเดือนนี้
สิงคโปร์มีแผนจะสร้างโรงงานนิววอเทอร์แห่งที่ 5 ให้เสร็จภายในปีนี้ (นิววอเทอร์เป็นโรงงานที่นำน้ำเสียมาผลิตเป็นน้ำใช้ใหม่ หรือรีไซเคิลน้ำ) โดยจะสามารถผลิตน้ำได้ 50 ล้านแกลลอนต่อวัน
นอกจากนี้ยังมีแผนการสร้างโรงกลั่นน้ำทะเลแห่งที่ 3 ให้เสร็จเรียบร้อยในปี 2561 โดยโรงงานกลั่นน้ำทะเลแห่งที่ 4 จะเสร็จสมบูรณ์ภายในสิ้นปี 2563 ส่วนโรงกลั่นน้ำทะเลแห่งที่ 5 อยู่ในระหว่างการสำรวจ อ้างอิงจากคำแถลงของรัฐมนตรีมาซากอสในเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา
ทางกระทรวงสิ่งแวดล้อมและแหล่งน้ำซึ่งมีสัดส่วน 2.6% ของการใช้จ่ายงบประมาณของสิงคโปร์มีแผนจะใช้จ่ายงบประมาณเพิ่มขึ้นอีก 13.1% ในปีงบประมาณนี้ ซึ่งจะมีมูลค่าถึง 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับงบประมาณใช้จ่ายของสิงคโปร์โดยรวมทั้งหมดที่เพิ่มขึ้น 7.3%
โดยคณะกรรมการสาธารณูปโภคสิงคโปร์ที่กำกับดูแลการจัดการน้ำประปา มีสัดส่วนในการใช้จ่ายงบประมาณมากกว่า 1 ใน 4 ของงบประมาณกระทรวง
ทั้งนี้ สิงคโปร์มีความตั้งใจที่จะใช้น้ำจากมาเลเซียภายใต้ข้อตกลงน้ำในปี 2505 ต่อไป เนื่องจากมีราคาถูกกว่าการผลิตน้ำจากการกลั่นน้ำทะเลและการรีไซเคิลน้ำ อ้างอิงจากคำให้สัมภาษณ์ของรัฐมนตรีมาซากอส การกลั่นน้ำทะเลในประเทศสามารถรองรับความต้องการใช้น้ำได้ 1 ใน 4 แต่ยังมีราคาแพงในการดำเนินการผลิต
ความต้องการใช้เทคโนโลยีการผลิตน้ำที่ดีขึ้นผลักดันให้เกิดนวัตกรรมในสิงคโปร์ ในปัจจุบัน มีบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับน้ำถึง 180 แห่งและมีศูนย์วิจัยภาคเอกชนถึง 26 แห่งโดยจะมีการจัดงานสัปดาห์น้ำนานาชาติสิงคโปร์ในเดือนก.ค. นี้.