ลาวห้ามส่งออกไม้เพิ่มอีก
รัฐบาลลาวประกาศห้ามส่งออกไม้ในหลายประเภท รวมทั้งผลิตภัณฑ์แปรรูปจากไม้และไม้ประดับ
โดยรัฐบาลมีความพยายามที่จะปกป้องทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไว้ให้มากที่สุด นายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีของลาว ออกประกาศคำสั่งนี้ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยสั่งห้ามส่งออกไม้แปรรูปและต้นไม้หลายประเภท
โดยในประกาศมีรายละเอียดว่า รัฐบาลลาวห้ามการส่งออกท่อนซุง ต้นไม้ ไม้แปรรูปบางส่วน รากต้นไม้ กิ่งไม้ ต้นไม้แห้งและไม้ประดับทุกชนิด
ทั้งนี้ คำประกาศสั่งห้ามล่าสุดยังได้ครอบคลุมถึงโควต้าสัมปทานการตัดต้นไม้ที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลไปก่อนหน้านี้หมายความว่า ต้นไม้ทุกประเภททั้งท่อนซุง ต้นไม้ที่ผ่านการแปรรูปทุกชนิด และรวมถึงการทำให้เป็นผลิตภัณฑ์ไม้สำเร็จรูปเพื่อการส่งออก
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลลาวเคยสั่งห้ามการส่งออกไม้ในลักษณะท่อนซุง ทำให้ธุรกิจมีความต้องการแปรรูปให้เป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปก่อนการส่งออก
นายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรี คนปัจจุบันของลาวยังได้สั่งห้ามเพิ่มเติมในการนำเข้าไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ที่ไม่ใช่ท่อนเข้ามาในประเทศเพื่อการส่งออกต่อไปยังประเทศอื่นๆ
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้มีการต่อเวลาในการระงับการผลิตท่อนซุงในป่าเพื่อการผลิตออกไปอีก และยังได้ร้องขอให้เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องเร่งร่างแบบแผนในการดำเนินการจัดตั้งป่าเพื่อการผลิตและส่งให้รัฐบาลเพื่อพิจารณาโดยเร็ว
นายทองลุนกล่าวว่า หน่วยงานของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องต้องมีความรับผิดชอบในการตัดต้นไม้เพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน แต่ผู้พัฒนาโครงการและผู้รับเหมาในการก่อสร้างไม่ได้รับอนุญาตให้ตัดต้นไม้ โดยการตัดต้นไม้ต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลเท่านั้น
เขายังได้ห้ามหน่วยงานรัฐไม่ให้ใช้ป่าไม้เพื่อค้ำประกันการเงินในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้วย นายกรัฐมนตรียังได้สั่งให้รัฐมนตรีว่ากระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ให้ความร่วมมือในการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่อเร่งพัฒนาการดำเนินการโรงงานแปรรูปไม้ให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรกรรมและป่าไม้ยังถูกร้องขอให้ทำงานร่วมกับกระทรวงกลาโหมและภาคส่วนอิ่นๆ ในการลาดตระเวนบริเวณพรมแดน รวมทั้งตรวจสอบโรงเลื่อยและโรงงานแปรรูปไม้ โรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ เพิ่อป้องกันการตัดไม้ที่ผิดกฎหมาย และการขนส่งในการค้าไม้
นายกรัฐมนตรี คนใหม่ของลาวยังได้สั่งการให้หน่วยงานภาครัฐใช้มาตรการที่เฉียบขาดในการลงโทษผู้กระทำผิดในการตัดต้นไม้ผิดกฎหมายและการกระทำอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
โดยสั่งให้กระทรวงเกษตรกรรมและป่าไม้ และกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามผลของคำสั่ง และรายงานผลการดำเนินการต่อรัฐบาลเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง