อินโดฯจับมือเกาหลีใต้หนุนอุตสาหกรรม

อินโดนีเซียต้องการเป็นหุ้นส่วนกับเกาหลีใต้เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมให้ขึ้นเป็นที่หนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นายโจโค วิโดโด ประธานาธิบดีของอินโดนีเซีย ผู้นำรัฐบาลในการไปเยือนเกาหลีใต้กล่าวว่า ถือเป็นศักยภาพสำคัญที่เกาหลีใต้จะมาลงทุนในอินโดนีเซีย
ประธานาธิบดีโจโควี่ กล่าวในงานประชุมกับ ประธานาธิบดีพัค กึนเฮ ของเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า “เนื่องด้วยการลงทุนจากเกาหลีใต้มีศักยภาพสูงในด้านต่างๆ ทำให้อินโดนีเซียต้องการที่จะเป็นหุ้นส่วนและคู่ค้ากับเกาหลีใต้ในการเร่งส่งเสริมอุตสาหกรรมในอินโดนีเซียให้พัฒนายิ่งขึ้น”
มูลค่าการลงทุนโดยเกาหลีใต้ในอินโดนีเซียในปี 2558 สูงถึง 1,210 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 1,120 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2557
ผู้นำทั้งสองประเทศร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามในเอ็มโอยู 7 ฉบับ โดยคาดว่าจะช่วยกระตุ้นความร่วมมือให้ทั้งสองประเทศในหลายๆด้าน โดยหนึ่งในพื้นที่ของข้อตกลงในการร่วมมือได้ถูกจัดตั้งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษในอินโดนีเซีย
ทั้งนี้อินโดนีเซียเองยังต้องการให้เกาหลีใต้เป็นหุ้นส่วนในการพัฒนากำลังการผลิตสำหรับอุตสาหกรรมเหล็กอีกด้วย และเนื่องจากข้อตกลงการเป็นคู่ค้าในครั้งนี้ อินโดนีเซียคาดการณ์ว่าในอนาคตจะสามารถลดค่าใช้จ่ายสำหรับการนำเข้าเหล็กได้จำนวนมาก
นายโจโควี่ ยังคาดการณ์อีกว่า ด้านอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์นั้นจะได้รับการสนับสนุนจากเกาหลีใต้ในการเพิ่มศักยภาพและการช่วยเหลือด้านเทคโนโลยี
แม้ว่าการลงทุนของเกาหลีใต้ในอินโดนีเซียจะได้รับผลดีมาตลอด แต่การซื้อขายแลกเปลี่ยนระหว่างสองประเทศนี้กลับปรับลดลงจาก 22,470 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2557 ลงมาเป็น 16,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2558
ด้าน ประธานาธิบดีโจโควี่ ต้องการที่จะลดภาษีและทลายกำแพงภาษีลง เขายังกล่าวอีกว่า “เรายังต้องพยายามมากขึ้นที่จะส่งเสริมการค้าการลงทุนต่อไป”
ระหว่างการประชุมของสองฝ่าย ประธานาธิบดีโจโค และ ประธานาธิบดีพัค ได้พูดคุยกันเรื่องสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี นายโจโควี่ เน้นย้ำถึงความสำคัญของความมีเสถียรภาพและสันติภาพในคาบสมุทรเกาหลี จึงขอให้มีการเรียกร้องสำหรับเกาหลีเหนือในการตอบรับฉันทามติจากสหประชาชาติ
ในกรณีก่อการร้าย นายโจโควี่ พูดถึงความจำเป็นที่ต้องเสริมสร้างความเหนียวแน่นให้กับการร่วมมือระหว่างประเทศและสร้างความเข้มแข็งในการแลกเปลี่ยนข้อมูลจากหน่วยงานลับ