เลือกตั้งฟิลิปปินส์ไม่กระทบเศรษฐกิจ
ธนาคารยักษ์ใหญ่เอชเอสบีซีให้ความเห็นว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 9 พ.ค. นี้จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ค่อนข้างน้อย เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีความเชื่อมั่นที่จะลงทุนอย่างต่อเนื่อง
โดยมีบันทึกในผลการสำรวจเกี่ยวกับผลกระทบจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่มีต่อระบบเศรษฐกิจว่า “จะมีผลกระทบระยะสั้นหลังจากการเลือกตั้ง แต่กลุ่มนักลงทุนจะยังคงมีการลงทุนในฟิลิปปินส์อย่างต่อเนื่อง”
โดยมีรายงานผลการสำรวจว่า “แคมเปญรณรงค์ในการเลือกตั้งยังคงดำเนินไปในรูปแบบเดิม แม้จะมีการประชันวิสัยทัศน์ระหว่างผู้สมัครอย่างเข้มข้น เป็นผลลัพธ์เชิงบวกจากยุคของอดีตประธานาธิบดีอาคิโน (ซึ่งเป็นผู้วางโครงสร้างการควบรวมงบประมาณหลังจากได้รับการปูทางมาก่อนจากอดีตประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย) มีความชัดเจนในนโยบายที่จับต้องได้ เช่น การมุ่งสร้างโครงสร้างพื้นฐานและปรับปรุงการใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อประเทศและผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง
รายงานของทางธนาคารยังแสดงความเห็นถึงสมาชิกวุฒิสภาเกรซ โพและนายแม็กซ์ ร็อกซัสที่มีภาพลักษณ์ว่าจะเป็น “ผู้สมัครที่จะสานต่อนโยบายเดิมอย่างต่อเนื่อง”
“นายร็อกซัสเป็นผู้สมัครจากพรรคเสรีนิยมของอดีตประธานาธิบดีอาคิโนและได้รับเลือกจากแนวคิดที่สอดคล้องกัน ในขณะที่สมาชิกวุฒิสภาโพ ถึงแม้จะเป็นผู้สมัครอิสระ แต่เป็นพันธมิตรของอดีตประธานาธิบดีอาคิโนและจะคงตำแน่งเดิมในคณะรัฐบาลไว้ค่อนข้างมาก อาจมีการปรับเปลี่ยนไม่มากนัก”
แต่ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีส่วนใหญ่มีแผนที่จะส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยการพัฒนาฟิลิปปินส์ให้มีศักยภาพสูงขึ้นที่จะแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI)
ในระยะสั้น ทางธนาคารมองว่าการบริโภคภาคเอกชนยังคงแข็งแกร่งจากข้อมูลล่าสุดที่ชี้ให้เห็นว่ามูลค่าการเงินที่ส่งกลับมาจากชาวฟิลิปปินส์ที่ไปทำงานต่างประเทศประจำปี มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 10%
ขณะเดียวกัน การใช้จ่ายของผู้สมัครในหาเสียงเพื่อการเลือกตั้งประธานาธิบดี สภานิติบัญญัติ สภาท้องถิ่น ช่วยกระตุ้นอุปสงค์ของภาคบริการในประเทศและรัฐบาลยังสามารถบรรลุเป้าหมายในการใช้จ่ายงบประมาณในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในไตรมาสแรกของปีนี้
นอกจากนี้ ธนาคารเอชเอสบีซีรายงานว่า ดัชนีชี้วัดหลายประเภทล้วนมีผลลัพธ์ที่ดี ทั้งการขยายตัวของเครดิตและข้อมูลการค้าที่มีผลคะแนนเพิ่มสูงขึ้นทั้งหมดในไตรมาสแรกของปี 2559 ในรายงานยังเผยว่า “แต่ภาคเกษตรกรรม ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ10%ของจีดีพี ยังคงย่ำแย่อยู่จากภัยแล้งที่ส่งผลให้ผลผลิตตกต่ำทั่วประเทศ”
ธนาคารเอชเอสบีซีคาดการณ์ว่า จีดีพีจะขยายตัวเป็น 5.9% ในปี 2559 ปรับเพิ่มขึ้นจาก 5.8% ในปี 2558
บทสรุปในรายงานของธนาคารคือ “ผลการเลือกตั้งจะส่งผลกระทบที่เกี่ยวเนื่องในระยะยาว ตราบใดที่ผู้สมัครยังคงยึดตามนโยบายเดิมและมีการใช้จ่ายงบประมาณในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์จะยังคงมีเสถียรภาพต่อไป”.