ผลผลิตโรงงานฟิลิปปินส์ชะลอตัว
จากรายงานการวิจัยของสถาบันบริการนักลงทุนมูดี้ส์แสดงว่า ผลผลิตโรงงานของฟิลิปปินส์ชะลอตัวลงจากตัวเลข 5.5% ในเดือน ก.พ. เมื่อเทียบกับตัวเลขการเติบโตที่สูงลิ่วถึง 34.3% ในเดือน ม.ค.
แต่จากผลการวิเคราะห์ของบริษัทมูดี้ส์ ผลผลิตโรงงานของฟิลิปปินส์ในเดือน ก.พ. ปีนี้ก็แสดงถึงการฟื้นตัวเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2558 ที่มีตัวเลขการเติบโตเพียง 2.1% เท่านั้น
โดยทางมูดี้ส์ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลล่วงหน้าในบทวิเคราะห์ประจำสัปดาห์ ก่อนที่จะมีตัวเลขอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสถิติแห่งฟิลิปปินส์ (PSA) ในวันที่ 12 เม.ย.ว่า “ผลผลิตอุตสาหกรรมของฟิลิปปินส์มีการขยายตัว 5.5% ในเดือนก.พ. หลังจากในเดือนม.ค.มีตัวเลขที่น่าประทับใจสูงถึง 34.3%”
อย่างไรก็ตาม ทางมูดี้ส์ไม่ได้ประเมินมูลค่าของผลผลิตโรงงานที่ได้ เมื่อเทียบกับตัวเลขจากภาครัฐที่ว่ามีการขยายตัวของผลผลิตโรงงานสูงถึง 26.5% ในเดือน ม.ค. ซึ่งสวนทางโดยสิ้นเชิงกับตัวเลข 1.1% ในเดือน ม.ค. ของปี 2558
โดยในบทวิเคราะห์ของมูดี้ส์ชี้ให้เห็นว่า ฟิลิปปินส์จะยังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่มีตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจดีที่สุดในภูมิภาคอาเซียนอีกครั้งในปี 2559 นี้
นอกจากนี้ ในบทวิเคราะห์ยังเสริมว่า “คาดการณ์ว่าผลผลิตอุตสาหกรรมอาหารของฟิลิปปินส์จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งใน 2-3 เดือนข้างหน้านี้ ถึงแม้ปรากฏการณ์เอลนีโญจะเริ่มส่งผลกระทบด้านลบกับผลผลิตทางการเกษตรบ้างแล้วก็ตาม”
ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจากดัชนีปริมาณผลผลิต (VoPI) ขยายตัวพุ่งสูงขึ้นถึง 34.3% ในเดือน ม.ค. เมื่อเทียบกับตัวเลข 5% ในเดือน ธ.ค. ปี2558
ตัวเลขการขยายตัวนี้เกิดจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งและการปรับปรุงพัฒนาใน 8 จาก 20 อุตสาหกรรมสำคัญคือ เคมีภัณฑ์, ผลผลิตยาสูบ, เครื่องจักรยกเว้นเครื่องจักรไฟฟ้า, อุตสาหกรรมอาหาร, เครื่องจักรอิเล็คโทรนิคส์, เครื่องดื่ม, ผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก, รองเท้าและเครื่องแต่งกาย
องค์การพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ (NEDA) เผยรายงานแยกจากดัชนีปริมาณผลผลิตเดือน ม.ค. ว่า คาดการณ์ว่าภาคอุตสาหกรรมการผลิตจะเติบโตอย่างแข็งแรงในปี 2559 หลังจากที่มีตัวเลขการขยายตัวอยู่ในระดับปรกติในปี 2558 โดยสาเหตุสำคัญคืออุปสงค์ทั่วโลกที่ซบเซาลงและสภาพอากาศที่แปรปรวน
ทั้งนี้ ทางองค์การพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติกล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 2 ของปีนี้ค่อนข้างสดใส เนื่องจากได้แรงหนุนสำคัญของการใช้จ่ายที่สูงขึ้นในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งและโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
โดยได้เสริมว่า“โครงการก่อสร้างที่เป็นการร่วมทุนระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชนยังคงมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องและอุปสงค์ในประเทศที่แข็งแกร่งขึ้นในช่วงฤดูร้อนจะช่วยหนุนการเติบโตในภาคอุตสาหกรรมการผลิต”