ทุนต่างชาติทะลักเข้าเวียดนาม

มีรายงานตัวเลขอย่างเป็นทางการว่า นักลงทุนต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาลงทุนในเวียดนามในไตรมาสแรกของปีนี้สูงถึง 4,030 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พุ่งทะยานเพิ่มขึ้นถึง 119% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558
สำนักงานการลงทุนจากต่างประเทศ เปิดเผยข้อมูลว่า นักลงทุนจากเกาหลีใต้มียอดการลงทุนในเวียดนามสูงเป็นอันดับ 1 มีมูลค่า 888.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็น 22% ของยอดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ตามมาด้วยสิงคโปร์ที่มียอดเงินลงทุน 554 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และไต้หวันเป็นอันดับ 3 ด้วยยอดเงินลงทุน 466 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
จากข้อมูลของสำนักงานการลงทุนจากต่างประเทศ ในไตรมาสแรกของปี 2559 มีการอนุมัติโครงการใหม่จากนักลงทุนต่างชาติถึง 473 โครงการ มูลค่ารวม 2,740 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วถึง 125% นอกจากนี้ มีอีก 203 โครงการที่อยู่ในระหว่างการดำเนินงานเพื่อเพิ่มทุนถึง 1,290 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นถึง 107% จากปี 2558
ในขณะเดียวกัน มีข้อมูลว่าการใช้จ่ายและจัดสรรเงิน FDI ในเวียดนามมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นถึง 15% มีมูลค่าอยู่ที่ 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ นักลงทุนต่างชาติอัดฉีดเงินทุนเข้ามาใน 19 ภาคส่วนธุรกิจโดยในจำนวนนี้ ภาคการผลิตและอุตสาหกรรมการแปรรูปมีสัดส่วนมากที่สุดถึง 2,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น 72.2% ของ FDI ที่หลั่งไหลเข้ามาในเวียดนาม ภาคอสังหาริมทรัพย์อยู่ในอันดับ 2 ด้วยมูลค่าเงินลงทุน 240 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น 6% ของมูลค่าการลงทุนทั้งหมด และมีอีก 1 โครงการลงทุนขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมบันเทิงที่มีมูลค่าประมาณ 211 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้อุตสาหกรรมบันเทิงอยู่ในอันดับ 3 คิดเป็นสัดส่วน 5.2% ของ FDI ทั้งหมดของเวียดนาม
ทั้งนี้ จังหวัดที่ตั้งอยู่ทางภาคใต้ของเวียดนามอย่างจังหวัดด่งนาย กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากนักลงทุนต่างชาติ โดยมีมูลค่าการลงทุนในจังหวัดนี้สูงถึง 585 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น 14.5% ของ FDI ในประเทศจังหวัดบั๊กนิงตามมาเป็นที่ 2 ด้วยยอดเงินลงทุน 398 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น 9.8% และจังหวัดบิ่งเซืองเป็นอันดับ 3 มีมูลค่าการลงทุน 371 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 9.2%
ก่อนหน้านี้ นายโด ถางฮาย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าได้กล่าวว่า มีธุรกิจจากต่างประเทศจำนวนมากที่ให้ความสนใจในการพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนามในปัจจุบัน และต้องการจะย้ายการลงทุนมาที่เวียดนาม เนื่องจากเล็งเห็นโอกาสครั้งสำคัญจากข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) และข้อตกลงการค้าเสรีที่เวียดนามได้ลงนามไว้
นายโดให้ความเห็นว่า เวียดนามควรมีนโยบายที่เหมาะสมที่จะทำให้การลงทุนจากต่างประเทศมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ และเสริมว่าในช่วงเวลาของการพัฒนานี้ ควรมีนโยบายที่ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรม, ธุรกิจการผลิตที่ต้องการเทคโนโลยีสูงและโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน
หมายเหตุ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ = 35.57 บาท วันที่ 29 มี.ค. 2559