อินโดนีเซียเร่งดูดนักลงทุนต่างชาติ

อินโดนีเซีย ซึ่งเป็น 1 ใน 10 ของสมาชิกอาเซียน และยังเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดของอาเซียน กำลังวางแผนเพื่อเพิ่มการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติแข่งกับเวียดนาม ฟิลลิปปินส์ และเมียนมา โดยตั้งเป้าเพิ่มอันดับ Doing Business จากอันดับที่ 109 ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 40
นสพ.จาการ์ตา โพสต์ของอินโดนีเซียรายงานเมื่อวันที่ 21 มี.ค.ว่า ในช่วงที่สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ซึ่งเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนแล้วตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว กำลังพยายามหาทางดึงดูดนักลงทุนเข้าประเทศอยู่นี้ ชุมชนภาคธุรกิจของอินโดนีเซียประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในอาเซียนได้ออกมาให้คำชี้แนะถึงรัฐบาล ว่ารัฐบาลอินโดนีเซียต้องยกปรับกระบวนการขอใบอนุญาตให้ง่ายและกระชับเพื่อเสริมบรรยากาศการลงทุน
“อินโดนีเซียมีคู่แข่งสำคัญในภูมิภาคอาเซียนในการแย่งชิงนักลงทุนต่างชาติคือเวียดนามและฟิลิปปินส์ ขณะเดียวกัน มีอีกหนึ่งประเทศคือเมียนมา กำลังจะกลายเป็นคู่แข่งที่มีศักยภาพเพิ่มมาอีกหนึ่งประเทศในเร็วๆนี้” นายอันโทเนียส โจโนส ซูพิต รองประธานหอการค้าและอุตสาหกรรม (คาดิน) ของอินโดนีเซีย กล่าว
นายอันโทเนียส ยังพูดถึงแนวโน้มของประเทศเมียนมาด้วยว่าพวกเราควรหันมาสนใจเมียนมามากขึ้น เพราะหลังพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ของ ออง ซาน ซูจี ชนะเลือกตั้งเมื่อปลายปีที่แล้วและอยู่ระหว่างฟอร์มจัดตั้งรัฐบาล พวกเขาได้ทำการผ่อนคลายนโยบายต่างๆ กระทั่งเดี๋ยวนี้ ชาวต่างชาติสามารถซื้อหาครอบครองที่อยู่อาศัยอาพาร์ทเมนต์ในเมียนมาได้ และในอนาคตบริษัทต่างชาติก็อาจสามารถซื้อที่ดินได้ด้วย
รองประธานหอการค้าฯ ของอินโดฯ กล่าวต่อไปว่า ประธานาธิบดีโจโก “โจโกวี” วิโดโด ต้องผลักดันดำเนินการแผนอย่างต่อเนื่องในอันที่จะทบทวนแก้ไขกฎระเบียบประมาณ 400 อย่างเพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายในการขับเคลื่อนประเทศให้ไต่ระดับสูงขึ้นจากที่ 109 ไปอยู่ลำดับที่ 40 ของ Doing Business ที่จัดทำโดยธนาคารโลก (เวิลด์แบงค์)
“ปัจจุบัน คนที่ต้องการเริ่มทำธุรกิจใหม่ (ในอินโดฯ) ต้องวิ่งขออนุญาตกว่า13ขั้นตอนซึ่งใช้เวลา 47 วันกว่าจะรู้เรื่อง” นายอันโทเนียส เผยส่วนประเภทการลงทุน นายอันโทเนียส เน้นย้ำให้อินโดนีเซียควรลงทุนด้านเทคโนโลยีที่ใช้แรงงานมากเป็นหลักเพื่อช่วยอุ้มชูภาคแรงงานในประเทศ.