แบงก์ชาติอินโดนีเซียตรึงดอกเบี้ยที่ 5.75%
ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repurchase rate) ระยะเวลา 7 วันซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 5.75% ซึ่งนับเป็นการตรึงดอกเบี้ยติดต่อกันในการประชุม 3 ครั้ง และสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดย BI คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อจะกลับสู่เป้าหมายของธนาคารกลางในไม่ช้านายเพอร์รี วาร์จิโย ผู้ว่าการ BI กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายยังคงอยู่ในระดับที่สามารถรักษาอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (core inflation) ให้อยู่ในกรอบเป้าหมายของ BI ที่ระดับ 2-4% และจะทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (headline inflation) กลับสู่เป้าหมายในเวลาที่รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้”ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ตัวเลขเงินเฟ้อปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 4.9% แล้ว และมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงอีก โดยเราเชื่อว่าในช่วงต้นเดือนส.ค.ปีนี้ อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ต่ำกว่าระดับ 4%”เศรษฐกิจอินโดนีเซียซึ่งใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น ได้รับแรงหนุนจากการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ที่เฟื่องฟู แม้นักเศรษฐศาสตร์หลายรายคาดว่าเศรษฐกิจอินโดนีเซียจะชะลอตัวลง เนื่องจากการใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินทั่วโลกจะส่งผลให้อุปสงค์ในตลาดโลกอ่อนแรงลง
“ดิสนีย์” เล็งปลดพนักงานหลายพันคน hotnews Wold สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า บริษัทวอลท์ดิสนีย์มีแผนที่จะปลดพนักงานหลายพันคนในสัปดาห์หน้า ซึ่งรวมถึงการลดจำนวนพนักงานในธุรกิจบันเทิงในอัตราส่วน 15% อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ของวอลท์ดิสนีย์ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อรายงานข่าวดังกล่าวแหล่งข่าวระบุว่า ดิสนีย์จะปลดพนักงานในธุรกิจทีวี, ภาพยนตร์, สวนสนุก และธุรกิจทั่วไป โดยจะมีผลกระทบในทุกภูมิภาคที่ดิสนีย์เข้าไปดำเนินธุรกิจ และพนักงานที่ถูกปลดจะได้รับหนังสือแจ้งเตือนอย่างเร็วที่สุดในวันที่ 24 เม.ย.นี้ในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ดิสนีย์ประกาศแผนลดจำนวนพนักงาน 7,000 ตำแหน่ง จากพนักงานในองค์กรกว่า 220,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การลดต้นทุนรายปีประมาณ 5.5 พันล้านดอลลาร์แหล่งข่าวระบุว่า การปลดพนักงานในครั้งนี้จะรวมถึงพนักงานในส่วนของดิสนีย์ เอนเตอร์เทนเมนต์ซึ่งจัดตั้งขึ้นในการปรับโครงสร้างในปีนี้ โดยบริษัทดิสนีย์ เอนเตอร์เทนเมนต์เป็นผู้ผลิตภาพยนตร์และรายการทีวี รวมถึงธุรกิจสตรีมมิงของดิสนีย์ทั้งนี้ บริษัทสื่อรายใหญ่ทุกรายของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงเอ็นบีซียูนิเวอร์แซลของบริษัทคอมแคสต์, วอเนอร์ บราเธอร์ส ดิสคัฟเวอร์รี อิงค์ และพาราเมาท์ โกลบอล ต่างก็ปรับลดจำนวนพนักงาน ในขณะที่นักลงทุนในตลาดวอลล์สตรีทเริ่มหันไปให้ความสนใจเรื่องต้นทุนการดำเนินงานที่ปรับตัวสูงขึ้นของแพลตฟอร์มวิดีโอต่าง ๆ จากเดิมที่เคยให้ความสนใจเรื่องการเติบโตของจำนวนสมาชิกในธุรกิจสตรีมมิง