กัมพูชาฉลองเงิน’เรียล’

เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ธนาคารแห่งกัมพูชาได้ฉลองครบรอบ 36 ปีของการรื้อฟื้น การใช้สกุลเงินประจำชาติ โดยจะมีการผลักดันให้มีการใช้สกุลเงินเรียลให้มากขึ้น ในระบบการเงินของกัมพูชาที่นิยมใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯเป็นหลัก
นายชี เสรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารกัมพูชา กล่าวในงานฉลองที่ศูนย์ความร่วมมือกัมพูชา-ญี่ปุ่นว่า ทางธนาคารเร่งกระตุ้นให้ภาคเอกชนเข้าร่วมในการส่งเสริมการใช้สกุลเงินของประเทศ นายเสรีให้ความเห็นว่า
“เงินเรียลได้รับความนิยมในชนบท แต่ในเมืองจะนิยมใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ จึงทำให้ผู้คนคุ้นเคยกับการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯมากกว่า ทางธนาคารจึงเร่งผลักดันให้มีการใช้เงินเรียลเพิ่มขึ้น”
โดยในปีนี้ ธนาคารกลางกำลังเตรียมความพร้อมที่จะเริ่มใช้ระบบการโอนเงินจากบัญชีหนึ่งไปอีกบัญชี รวมถึงการโอนเงินต่างธนาคารด้วยเงินเรียล ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินจะต้องเข้าร่วมในระบบนี้ต้นปี 2560
นางสาวเนียฟ ฉันทนา รองผู้ว่าการธนาคารแห่งกัมพูชากล่าวในงานฉลองครบรอบการรื้อฟื้นใช้สกุลเงินเรียลตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค. 2523 หลังจากมีการยุบธนาคารกลางและเลิกใช้สกุลเงินทั้งหมดในช่วงที่เขมรแดงปกครองประเทศ
ทั้งนี้ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้รับความนิยมในกัมพูชามาตั้งแต่ปี 2533 หลังจากองค์กรบริหารชั่วคราวแห่งสหประชาชาติในกัมพูชาอัดฉีดเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เข้ามาในระบบเศรษฐกิจของกัมพูชาสูงถึง 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
โดยนางสาวฉันทนาอธิบายว่า การใช้สกุลเงินประจำชาติอย่างกว้างขวางจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของธนาคารกลางในการกำหนดนโยบายการเงินเพื่อรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจ
นายสก พิเสท ประธานสมาคมผู้ประกอบการรุ่นเยาว์ในกัมพูชา ซึ่งเป็นสปอนเซอร์สนับสนุนงานฉลองนี้ให้ข้อมูลว่า สมาชิกของสมาคมมากกว่า 100 รายจ่ายเงินเดือนด้วยเงินเรียล และตั้งราคาสินค้าและบริการด้วยเงินเรียลและดอลลาร์สหรัฐฯ โดยนายพิเสทกล่าวว่า
“เราอยากให้คนกัมพูชาตระหนักถึงคุณค่าเงินของประเทศเราเอง”
มีการประชุมพูดคุยกันถึงการลดการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐและขยายการใช้เงินเรียลให้กว้างขวางยิ่งขึ้นมาหลายปีแล้ว การพูดคุยเข้มข้นขึ้นเมื่อกัมพูชาเปิดตลาดหลักทรัพย์เมื่อปี 2554 โดยนักลงทุนจากต่างประเทศพยายามล็อบบี้ให้ตลาดหุ้นกัมพูชาดำเนินการด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่สุดท้ายคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์ของกัมพูชาได้ตัดสินใจใช้เงินเรียลเป็นหลัก
ถึงแม้การดำเนินการจะเป็นไปอย่างเชื่องช้า แต่รัฐบาลได้มีการประกาศใช้หลายมาตรการในช่วงหลายปีมานี้เพื่อส่งเสริมการใช้เงินเรียล อย่างเช่น การเพิ่มสัดส่วนการกันเงินสำรองของธนาคารพาณิชย์เป็น 12% ในกรณีของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (ถ้าเป็นเงินเรียล จะอยู่ที่ 8%) และมีการใช้เงินเรียลในการทำธุรกรรมการเงินของรัฐบาล ระบบภาษีและบริการสาธารณะ.