การลงทุนพุ่งในอินโด

ความพยายามของรัฐบาลอินโดนีเซียที่จะส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจที่ถูกต้องเที่ยงธรรมในประเทศเริ่มเห็นผลลัพธ์ในเชิงบวก จากมูลค่าข้อตกลงในการลงทุนนอกเกาะชวา ที่สูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.พ. คิดเป็นสัดส่วนเกือบ90% ของตัวเลขรวมทั้งหมด
คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BKPM) ได้เผยแพร่ข้อมูลเมื่อต้นสัปดาห์ว่า อินโดนีเซียมีมูลค่าข้อตกลงในการลงทุนสูงถึง 355 ล้านล้านรูเปียห์ในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา โดยเป็นการลงทุนนอกเกาะชวาถึง 316 ล้านล้านรูเปียห์
นายแฟรงกี้ สิบารานี หัวหน้าBKPM กล่าวว่า “การลงทุนส่วนใหญ่มาจากบริษัทของสหรัฐอเมริกา จีน สิงคโปร์ หรือเกาหลีใต้”
จากข้อมูลของBKPM พื้นที่ที่ได้รับความนิยมในการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติมากที่สุดอยู่บนเกาะสุลาเวสี โดยมีมูลค่าการลงทุนอยู่ที่ 235 ล้านล้านรูเปียห์และบนเกาะสุมาตรา 71.9 ล้านล้านรูเปียห์
แนวโน้มการลงทุนนี้ได้รับการยืนยันในรายละเอียดใน‘ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจยุโรปในปี 2558’ ที่ชี้ว่า มากกว่า 1 ใน 4 ของบริษัทจากยุโรปที่ลงทุนอยู่ในอินโดนีเซียกำลังมีแผนที่จะขยายธุรกิจ และมากกว่าครึ่งของบริษัทเหล่านี้ ที่มองว่าเกาะสุลาเวสีและเกาะสุมาตราเป็นทำเลเป้าหมายในการขยายธุรกิจที่มีศักยภาพ
นอกจากนี้ นายเอเดรียน ชอร์ท ประธานหอการค้าอังกฤษในอินโดนีเซีย ให้ความเห็นว่า มีรายงานข้อมูลว่านักธุรกิจชาวอังกฤษมีความสนใจเพิ่มสูงขึ้นในการขยายการลงทุนนอกเกาะชวา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม อ้างข้อมูลว่า ในปัจจุบัน 75% ของผู้ประกอบการธุรกิจตั้งอยู่บนเกาะชวา 17% ตั้งอยู่อยู่บนเกาะสุมาตรา และ 3.4% บนเกาะกะลิมันตัน เกาะชวาเป็นเกาะที่ได้รับความนิยมในการลงทุนมากที่สุดในอินโดนีเซีย มีสัดส่วนสูงเกือบ 60% ในตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้ เพื่อจะกระจายความเจริญให้ทั่วถึง รัฐบาลตั้งเป้าที่จะขยายสัดส่วนการลงทุนออกไปนอกเกาะชวาเพิ่มสูงขึ้นเป็น 49.1% ในปีนี้ จากตัวเลขเดิม 45.2% ในปีที่แล้ว
มีการรายงานข้อมูลจาก BKPM ว่า ข้อตกลงในการลงทุนในประเทศเพิ่มสูงขึ้นถึง 45% จากปี 2558 มาอยู่ที่ 1.8 พันล้านล้านรูเปียห์
โดยรัฐบาลอินโดนีเซียมีความพยายามที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานนอกเกาะชวาเพื่อเป็นการกระจายความเจริญและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐานสำคัญบางส่วนคือการสร้างทางยกระดับเชื่อมเกาะสุมาตรา สร้างสนามบินกัวลาตันจังบนเกาะสุมาตราเหนือและสร้างรถไฟบนเกาะสุมาตราใต้
โดยมูลค่าสัญญาการลงทุนในอินโดนีเซียพุ่งทะยานเพิ่มสูงขึ้นถึง 167% จากเดิม 212.6 ล้านล้านรูเปียห์ในเดือนก.พ.ปี 2558 มาอยู่ที่ 355 ล้านล้านรูเปียห์ในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา โดยเป็นนักลงทุนภายในประเทศ 75 ล้านล้านรูเปียห์และนักลงทุนต่างประเทศถึง 280 ล้านล้านรูเปียห์
ภายใน 2 เดือนแรกของปีนี้ มีการตกลงในการลงทุนเพิ่มขึ้นถึง 561 ล้านล้านรูเปียห์แล้ว ทั้งนี้ รัฐบาลตั้งเป้าในมูลค่าการลงทุนไว้สูงถึง 3.5 พันล้านล้านรูเปียห์ สำหรับปี 2558- 2562
นายแฟรงกี้ ให้ความเห็นว่า มูลค่าข้อตกลงในการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ชี้ให้เห็นว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเดินมาถูกทางและเริ่มส่งผลดึงดูดนักลงทุนแล้ว โดยรัฐบาลอินโดนีเซียได้ออก 10 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใน 6 เดือนที่ผ่านมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้การประกอบธุรกิจเป็นไปได้ง่ายขึ้นและลดขั้นตอนความยุ่งยากในระบบราชการลง
โดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสำคัญจากBKPM คือการออกใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจภายใน 3 ชั่วโมงสำหรับนักลงทุนที่มีมูลค่าในการลงทุนมากกว่า 1 ล้านล้านรูเปียห์หรือมีการจ้างพนักงานมากกว่า 1,000 คน ภายในเดือนก.พ.เพียงเดือนเดียว มี 7 บริษัทที่มีมูลค่าการลงทุนสูงกว่า 9.1 ล้านล้านรูเปียห์ที่ใช้บริการนี้
ก่อนหน้านี้ นายแฟรงกี้มองว่า มาตรการปรับปรุงและลดขั้นตอนความยุ่งยากของรัฐบาลในครั้งล่าสุด จะครอบคลุมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับนักลงทุนจากต่างประเทศและเชื่อว่าจะกระตุ้นการลงทุนได้มากถึง 50%
หมายเหตุ 1,000 รูเปียห์ = 3.01 บาท วันที่ 18 มี.ค.2559.