มาเลเซียจัดระเบียบแรงงานข้ามชาติ
กระทรวงมหาดไทยของมาเลเซียเผยว่า แรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย 2 ล้านคนในมาเลเซียจะได้รับอนุญาตให้ทำงานได้ถึงวันที่ 15 ก.พ.นี้เท่านั้น
นายอาหมัด ซาฮิด ฮามิดิ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงจะเริ่มดำเนินการจัดระเบียบการจ้างงานใหม่ในช่วงแรกให้เสร็จสิ้นภายใน 3 เดือน เพื่อประเมินประสิทธิภาพของกฎข้อบังคับใหม่นี้
เขากล่าวว่า การจัดระเบียบการจ้างงานนี้ แรงงานสามารถลงทะเบียนออนไลน์ได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาตัวแทน เพื่อเป็นการตัดป้ญหาตัวแทนเรียกเก็บเงินจากนายจ้าง แต่ไม่ได้ลงทะเบียนให้อย่างถูกกฎหมาย
นายดาตุ๊ก เซรี ซาฮิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวในงานแถลงข่าวว่า การลงทะเบียนแรงงานนี้ ทำให้แรงงานต่างชาติทำงานในมาเลเซียได้ต่อไป ที่ผ่านมาการจัดเก็บเงินจากตัวแทนจัดหางานก็ไม่เข้าภาครัฐ ด้วยสาเหตุดังกล่าว ทำให้รัฐบาลรู้สึกว่าต้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือแรงงานกลุ่มนี้
นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ประกาศเมื่อวันที่ 28 ม.ค.ว่า การจัดระเบียบการลงทะเบียนนี้ จะช่วยให้แรงงานต่างชาติได้รับใบอนุญาตทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และรัฐบาลสามารถตรวจสอบจำนวนแรงงานทั้งหมดเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับพวกเขาได้ โดยแรงงานสามารถลงทะเบียนได้ทั่วประเทศ ทั้งในรัฐซาบาห์ และรัฐซาราวัก
กล่าวว่า แรงงานจะไม่ถูกปรับหลังจากลงทะเบียนออนไลน์เสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็จะต้องเสียภาษีรายได้ด้วย ทางกระทรวงจะมีการประชุมกับนายจ้าง และตัวแทนจัดหางานภายใน 2 สัปดาห์นี้
ทั้งนี้มาเลเซียมีความพยายามมานานหลายปี ที่จะจัดการกับปัญหาการหลั่งไหลของผู้อพยพที่ลักลอบเข้าประเทศมาอย่างผิดกฎหมาย โดยส่วนใหญ่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเช่น อินโดนีเซีย
ในปี 2554 มาเลเซียประกาศนิรโทษกรรมให้กับแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมายเพื่อลงทะเบียนให้เข้ามาในระบบ มีแรงงานประมาณ 1.3 ล้าน คนที่ให้ความร่วมมือและ 500,000 คนได้รับใบอนุญาตทำงาน ขณะที่มีแรงงานถึง 330,000 คนถูกผลักดันกลับประเทศ
ทั้งนี้แรงงานต่างชาติกว่า 500,000 คนที่ไหลทะลักเข้ามาในมาเลเซียหลังจากนั้น จึงพลาดโอกาสที่จะลงทะเบียนเพื่อจำแนกว่า จะได้ทำงานอย่างถูกกฎหมายหรือจะถูกส่งกลับประเทศ
เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ดร.ซาฮิดกล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยจะประชุมกับนายจ้างหลังจากช่วงตรุษจีนเพื่อปรึกษากันเรื่องอัตราการจัดเก็บภาษีสำหรับแรงงานต่างชาติ เขากล่าวว่า
“ทางกระทรวงต้องการรับฟังความคิดเห็นจากตัวแทนนายจ้าง แต่ต้องอย่าลืมว่า การจัดระเบียบครั้งนี้ จะสามารถเพิ่มเงินเข้าคลังของประเทศได้ถึง 4,000 ล้านริงกิต”
ก่อนหน้านี้ มีการจำแนกแรงงานต่างชาติไว้ 6 ระดับ และจัดเก็บภาษีตามภาคส่วนที่ทำงานอยู่ เช่น ภาคการผลิต ก่อสร้าง บริการ เพาะปลูก และเกษตรกรรม
แต่จากเดือนนี้เป็นต้นไป จะมีการกำหนดเป็น 2 ภาคส่วนเท่านั้น คือรวมภาคการผลิต ก่อสร้างและบริการเข้าไว้ด้วยกันเป็นประเภทที่หนึ่ง โดยจัดเก็บภาษี 2,500 ริงกิตต่อแรงงาน 1 คน และภาคเพาะปลูก และเกษตรกรรมเป็นประเภทที่ 2 จัดเก็บ ภาษี 1,500 ริงกิตต่อคน
หมายเหตุ 1 ริงกิต = 8.57 บาท เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2559
